ผลกำไรของผู้ผลิตถุงมือแพทย์ลดลงเนื่องจากการระบาดไวรัสโควิด 19 ลดน้อยลง


กัวลาลัมเปอร์ 10 ธ.ค. (สำนักข่าวรอยเตอร์) - Top Glove ผู้ผลิตถุงมือทางการแพทย์รายใหญ่ที่สุดของโลกกล่าวว่าผลประกอบการไตรมาสแรกกำไรลดลงอย่างมากจนเกือบจะไม่มีกำไร และคาดว่าสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในระยะสั้นจะท้าทายเนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นท่ามกลางความต้องการสินค้าที่ชะลอตัว จากรายงานที่เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ ส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทที่ลดลงไปแล้ว 60% ในปีนี้ร่วงลงอีก 10% 

จากการระบาดครั้งใหม่ของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ Omicron ที่แพร่กระจายไปทั่วโลก Top Glove กล่าวว่าผู้ซื้อต่างจับตาว่าจะเก็บสะสมสต็อกถุงมือไว้อีกครั้งหรือไม่ “เรายังไม่เห็นการตื่นตัวอย่างเต็มที่ในทั่วโลก ลูกค้าจำนวนมากของเราต่างก็จับตามองอยู่ และฉันเชื่อว่าพวกเขาบางคนสามารถเติมสต็อกของพวกเขาได้” เขากล่าว และยังมีคำสั่งซื้อถุงมือจำนวนมากจากตะวันออกกลางเพื่อใช้ทางการแพทย์

Top Glove เป็นหนึ่งในผู้รับผลประโยชน์ช่วงแรกๆ ของการระบาดใหญ่ เนื่องจากความต้องการถุงมือยางเพิ่มขึ้นเพื่อป้องกันการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น และราคาหุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้นเกือบสี่เท่าในปี 2563

บริษัทคาดหวังจากแรงส่งของการระบาดไวรัสโควิด 19 และราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นจะทำให้แผนการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดฮ่องกงมีมูลค่าสูงถึง 1.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ต้องลดจำนวนดังกล่าวลงมาสองเท่าเนื่องจากหุ้นในกัวลาลัมเปอร์ก็ตกต่ำลงเมื่อการระบาดใหญ่ลดน้อยลง และการที่บริษัทถูกประเทศสหรัฐอเมริกาสั่งห้ามนำเข้าถุงมือยางตลอดทั้งปี เนื่องจากข้อกล่าวหาว่าบริษัทมีการบังคับใช้แรงงานอย่างไม่ถูกกฎหมาย
“กลุ่มบริษัทเห็นปริมาณการขายที่ลดลงในไตรมาสปัจจุบัน ซึ่งเป็นผลมาจากการแข่งขันและอุปทานที่เพิ่มขึ้น อันเนื่องมาจากการขยายตัวของตลาดจากผู้ผลิตรายเดิมและการเข้ามาของผู้ผลิตรายใหม่” Top Glove กล่าวในการยื่นเรื่องตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันศุกร์

กรรมการผู้จัดการ Lee Kim Meow กล่าวว่าส่วนแบ่งการตลาดของ Top Glove ถูกแยง่ชิงโดยการแข่งขันจากจีน แต่บริษัทสามารถดึงลูกค้าบางส่วนกลับคืนมาได้“ในช่วงหลายเดือนก่อน ลูกค้าบางคนของเราซื้อถุงมือจากประเทศจีน แต่ด้วยความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า โครงสร้างต้นทุนที่ดีของเรา ทำให้เราสามารถแข่งขันและนำยอดสั่งซื้อถุงมือกลับคืนมาได้” 

ปริมาณการขายสำหรับเอเชียยกเว้นญี่ปุ่นลดลง 10% ในช่วงเวลาดังกล่าวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน กำไรสุทธิของ Top Glove ช่วงเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายนลดลง 92% จากปีก่อนหน้ามาอยู่ที่ 185.7 ล้านริงกิต (44.04 ล้านดอลลาร์) รายรับร่วงลง 67% เป็น 1.58 พันล้านริงกิต ราคาขายเฉลี่ยลดลง และลูกค้าระมัดระวังการสั่งซื้อสินค้าเพื่อเติมสต็อกเนื่องจากคาดว่าราคาถุงมือจะลดลงอีก อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดการณ์ว่าปริมาณการขายจะดีขึ้นในไตรมาสต่อๆ ไป เนื่องจากบริษัทจะสามารถเริ่มทยอยส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ที่มา https://www.reuters.com/markets/commodities/top-glove-profit-slumps-company-warns-weak-demand-2021-12-10/


















14/01/2022