เฮียวโกะ ญี่ปุ่น - บริษัท Toyo
Tire Corporation ตั้งเป้าหมายที่จะพัฒนาและส่งมอบยางล้อสมรรถนะสูงที่สามารถตอบสนองความต้องการของสังคมผ่านนวัตกรรมทางเทคโนโลยีขั้นสูงของแพลตฟอร์ม
“Nano Balance Technology”
ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการพัฒนาวัสดุยางของบริษัท โดยบริษัท Toyo Tire ได้เปิดตัวเทคโนโลยีการพัฒนายางล้ออันแรกซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชุดโครงการ Nano
Balance Technology ซึ่งใช้สารสนเทศศาสตร์ของวัสดุเพื่อคาดการณ์คุณลักษณะและปรับโครงสร้างของวัสดุยางพาราให้เหมาะสม
เทคโนโลยีนี้ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence: AI) และเทคโนโลยีอื่น ๆ เพื่อทำให้สามารถค้นพบวัสดุใหม่ที่สามารถใช้ทดแทนได้ที่มีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมกว่าวิธีการแบบดั้งเดิม
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา AI (machine learning) และเทคโนโลยีอื่น ๆ
ได้ถูกนำมาใช้ในกระบวนการพัฒนาวัสดุ แต่เทคโนโลยี MI
กำลังจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงศาสตร์ด้านการพัฒนาวัสดุ ปกติแล้ว การพัฒนาวัสดุเป็นกระบวนการที่ใช้เวลาลองผิดลองถูกนาน
ขึ่นอยู่กับประสบการณ์ของวิศวกรและการทดลองซ้ำไปซ้ำมา ตั้งแต่ปี 2018 บริษัทได้ใช้งานเทคโนโลยี MI บนฐานของฐานข้อมูลเพื่อช่วยตรวจสอบความถูกต้องของเทคโนโลยีสูตรวัสดุและคุณสมบัติทางกายภาพที่คาดการณ์
และด้วยความก้าวหน้าด้านความแม่นยำของเทคโนโลยีดังกล่าว บริษัท Toyo Tire ยังได้นำไปใช้ในการช่วยตรวจสอบการใช้งานของข้อมูลด้านอื่น ๆ เช่น
การนำไปใช้งานกับข้อมูลภายนอกในปี 2019 โดยในอนาคต บริษัท Toyo
Tire
จะพัฒนาสภาพแวดล้อมที่ช่วยให้ข้อมูลภายในบริษัทสามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิผล
บริษัทยังจะใช้วิธีการวิเคราะห์ใหม่ ๆ
และข้อมูลเชิงคาดกาณ์เพื่อสร้างวัสดุใหม่ที่ใช้เทคโนโนโลยี MI ซึ่งเป็นการพัฒนาที่มีการปรับปรุงค่าให้มีความเหมาะสมอย่างสูง
เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์สมรรถนะสูงในขณะเดียวกันก็ลดเวลาและต้นทุนของการพัฒนาได้ด้วย
ยางเป็นวัสดุคอมโพสิตที่เกิดจากการเติมสารตัวเติม (filler) และส่วนผสมอื่น
ๆ ลงในโพลีเมอร์ฐานของวัสดุ แต่ละส่วนผสมจะส่งผลโดยตรงต่อคุณลักษณะของผลิตภัณฑ์
ดังนั้นจึงต้องมีการควบคุมประเภทของส่วนผสมและปริมาณให้เหมาะสม
รวมทั้งต้องมีการปรับวิธีการด้านกระบวนการด้วย
การใช้เทคโนโลยี MI
ทำให้บริษัท Toyo
สามารถสร้างระบบที่มีการคาดการณ์คุณสมบัติและสูตรผสมได้ถูกต้องอย่างมาก
ซึ่งทำให้การพัฒนาวัสดุมีประสิทธิภาพสูงและลดการทดสอบให้เหลือน้อยที่สุด
ระบบดังกล่าวทำงานแบบโมเดลการถดถอยแบบไม่เป็นเส้นตรง (nonlinear regression
model) ซึ่งสามารถทำการคาดการณ์ที่ขยายไปไกลกว่าองค์ความรู้ที่มีอยู่เดิมโดยการนำเข้าข้อมูลจากภายนอกมาสู่ฐานข้อมูล
ระบบนี้ยังถูกใช้งานในการพัฒนาวัสดุสมรรถนะสูงอีกด้วย ในศาสตร์ของ Nano
Balance Technology บริษัท Toyo Tire
ได้ใช้เครื่องมือที่หลากหลายเพื่อประเมินส่วนประกอบต่าง ๆ
ในคุณสมบัติของวัสดุแต่ละลำดับขั้น และเพื่อจะสกัดประเด็นการพัฒนาออกมา
ข้อมูลด้านโครงสร้างทางเคมีและวัสดุที่ได้จากการวิเคราะห์นั้นต่างจากข้อมูลคุณลักษณะของวัสดุอย่างสิ้นเชิง
ดังนั้น ข้อมูลด้านโครงสร้างทางเคมีและวัสดุจะถูกใช้เป็นข้อมูลสำหรับการคาดกาณ์คุณสมบัติของวัสดุทางอ้อมเป็นหลัก
โดยการใช้งานเทคโนโลยี MI ที่พัฒนาขึ้นใหม่นี้ในการวิคราะห์วัสดุ
ทำให้บริษัทสามารถคำนวณค่าที่คาดการณ์สำหรับคุณสมบัติของวัสดุได้จากข้อมูลโครงสร้าง
ด้วยตัวของเทคโนโลยีเองช่วยแก้ปัญหาเรื่องการปรับโครงสร้างตามค่าของคุณสมบัติที่ต้องการ
บริษัท Toyo ต้องการที่จะใช้เทคโนโลยีนี้และขยายไปยังเรื่องการพัฒนาวัสดุใหม่
ๆ เทคโนโลยีเหล่านี้ถูกทำให้เกิดขึ้นจริงได้ด้วยความร่วมมือกับบริษัท SAS
Institute Japan Co., Ltd. โดยบริษัท SAS Institute Japan เป็นบริษัทชั้นนำในการวิเคราะห์ที่ช่วยส่งเสริมการใช้งานเทคโนโลยี AI
และการนำโซลูชั่นด้าน IoT ขั้นสูงมาใช้ในอุตสาหกรรมวงกว้างผ่านนวัตกรรมด้านซอฟท์แวร์และการบริการ
บริษัท Toyo Tire
พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีสมรรถนะสูงและคุณภาพสูงโดยใช้ทั้งเทคโนโลยีการพัฒนาวัสดุยาง Nano
Balance Technology ของบริษัทเอง และเทคโนโลยี T-Mode ที่ช่วยเรื่องการออกแบบยางล้อ บริษัท Toyo
ยังมุ่งที่จะค้นหาโอกาสในการใช้ยางล้อเป็นอุปกรณ์การตรวจวัดและสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูงที่จะเป็นช่วยสร้างสังคมการเดินทางแห่งอนาคต
ในอนาคต บริษัท Toyo Tire ต้องการที่จะใช้งานเทคโนโลยี MI
ในกระบวนการพัฒนายางอย่างเต็มที่และยกระดับคุณค่าของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ
ให้มากขึ้น
ที่มา http://www.rubberworld.com/news.asp?id=29515