สมอ.ผนึกกำลังชาติอาเซียนเพิ่มศักยภาพส่งออกผลิตภัณฑ์ยาง


นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(สมอ.) กล่าวว่า อุตสาหกรรมยางพารานับเป็นอุตสาหกรรมที่สำคัญและส่งผลต่อเศรษฐกิจเนื่องจากประเทศไทยเป็นผู้ผลิตยางพารารายใหญ่ ของโลก ปีที่ผ่านมามีมูลค่าการส่งออกยางพารา 147,343.4 ล้านบาท และมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ยาง 353,442.9 ล้านบาท ปัจจุบัน สมอ. ได้กำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์จากยางพาราแล้ว 168 มาตรฐาน และมีแผนการกำหนดเพิ่มอีกในปี พ.ศ. 2563 จำนวน 10 มาตรฐาน เช่น แผ่นยางปูทางผ่านเสมอระดับรถไฟ แผ่นยางปูพื้นสำหรับผู้พิการทางสายตา และยางรัดเอวพยุงหลัง ฯลฯ ซึ่งจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ยางพาราของไทย
ช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา สมอ. เป็นเจ้าภาพ จัดการประชุมคณะทำงานด้านผลิตภัณฑ์ยาง (RubberBased Product Working Group - RBPWG) ภายใต้คณะกรรมการที่ปรึกษาด้านมาตรฐานและคุณภาพของอาเซียน (ASEAN Consultative Committee for Standards and Quality - ACCSQ) ครั้งที่ 29 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง

การประชุมในครั้งนี้มุ่งเน้นการพิจารณาแผนงานเชิงยุทธศาสตร์ประจำปี 2563 - 2568 (Strategic Plan 2020 - 2025) ซึ่งจะผลักดันกิจกรรมสำคัญ คือ การส่งเสริม ผลิตภัณฑ์ยางที่มีนวัตกรรมด้านการมาตรฐาน เพื่อเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ยางที่มีนวัตกรรมให้แข่งขันได้ในระดับสากล อีกทั้งเป็นวาระที่ประเทศไทยเป็นแกนนำในการพิจารณากำหนดจุดยืนร่วมกันเกี่ยวกับมาตรฐานใหม่สำหรับผลิตภัณฑ์ยางในการประชุม ISO/TC 45 - Rubber and rubber products ด้วย ซึ่ง สมอ. ตั้ง เป้าหมายจะทำให้เกิดผลสำเร็จเป็นรูปธรรมในช่วงที่ไทย ดำรงตำแหน่งประธาน ACCSQ RBPWG ในการประชุมครั้งถัดไป ในปี 2563

นอกจากนี้ ได้ประชุมคณะกรรมการห้องปฏิบัติการยางของอาเซียน (ASEAN Rubber Testing Laboratory Committee - ARTLC) วัตถุประสงค์เพื่อสร้างเครือข่ายให้เกิดความร่วมมือที่แข็งแกร่งระหว่างห้องปฏิบัติการยางของอาเซียนและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางคุณภาพของภูมิภาค ส่งเสริมอุตสาหกรรม และเพิ่มศักยภาพการส่งออกผลิตภัณฑ์ยางของอาเซียนซึ่งจะส่งผลดี กับผลิตภัณฑ์ยางของไทยที่มีศักยภาพสูงในตลาดโลก อาทิ ผลิตภัณฑ์แผ่นยางและถุงมือยาง อีกด้วย



















15/10/2019