วอชิงตัน—คณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศแห่งสหรัฐฯ
หรือ U.S. International Trade Commission ลงคะแนน 5 ต่อ 0 เสียงในผลการไต่สวนชั้นที่สุด (final
determination) ว่าด้วยความเสียหายอย่างสำคัญต่ออุตสาหกรรมหนังยางในประเทศเนื่องจากการนำเข้าจากประเทศไทย
การลงคะแนนเสียงครั้งนี้เกิดประมาณ 15 เดือน ภายหลังจากที่บริษัท Alliance Rubber Co. ที่ตั้งอยู่ที่เมือง
Hot Springs รัฐอาร์คันซอส ยื่นฟ้องต่อ ITC เรื่องการสนับสนุนการนำเข้าหนังยางจากประเทศจีน ประเทศไทย
และประเทศศรีลังกา ในการออกแถลงข่าวภายหลังการยื่นฟ้องต่อ ITC ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2018 คุณ Bonnie Spencer
Swayze ประธานของบริษัท Alliance กล่าวว่า
“ผู้ผลิตหนังยางจากเอเชียได้รับการอุดหนุนจากรัฐบาลของพวกเขาและลดราคาอย่างเกินจริงเพื่อที่จะขจัดการแข่งขันในอเมริกา”
ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2018 ITC ตัดสินใจที่จะยุติการสอบสวนการนำเข้าหนังยางจากประเทศศรีลังกา
แต่กล่าวว่าจะยังคงตรวจสอบการนำเข้าจากประเทศจีนและประเทศไทย
ในเดือนกันยายน กระทรวงพาณิชย์ออกภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดขั้นต้นที่ร้อยละ
5.86 ต่อการนำเข้าหนังยางของไทยและยืนตามการตัดสินใจดังกล่าวในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2019
ที่กระทรวงได้ผลการไต่สวนชั้นที่สุด ซึ่งได้มีการยกเว้นให้บริษัท Liang
Hah Heng International Rubber Co./Hah Shung Heng Co. ที่มีอัตราภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดที่ร้อยละ
0
เมื่อทำการไต่สวนชั้นที่สุด กระทรวงพาณิชย์ยังได้ออกคำสั่งให้
หน่วยงานศุลกากรและการปกป้องเขตแดน (Customs and Border Protection) เก็บอัตราภาษีที่ตั้งไว้ที่ร้อยละ 5.87
ภาษีที่เก็บจากหนังยางของไทยมีความแตกต่างอย่างมากจากที่เรียกเก็บจากหนังยางที่นำเข้ามาจากประเทศจีน
โดยในเดือนกุมภาพันธ์ กระทรวงพาณิชย์ได้ออกภาษีตอบโต้การอุดหนุน (countervailing
duties) ชั้นสุดท้ายที่ร้อยละ 27.27 และภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดชั้นสุดท้ายที่ร้อยละ
125.77 ต่อการนำเข้าหนังยางของประเทศจีน
กระทรวงพาณิชย์ยุติการสืบสวนอย่างเป็นทางการในวันที่
11 มีนาคม
ที่มา https://www.rubbernews.com/article/20190415/NEWS/190419960/itc-makes-final-determination-in-thailand-rubber-band-case