อุตสาหกรรมถุงมือยางของประเทศไทยนับเป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ เนื่องจากมีปริมาณการใช้ยางธรรมชาติในการผลิตมาก มีสัดส่วนการใช้ร้อยละ 10.88 เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ยางสำเร็จรูปอื่นๆ และเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยทั้งในแง่ของการสร้างมูลค่าเพิ่มและการจ้างแรงงาน และจัดเป็นผลิตภัณฑ์ยางขั้นปลายที่สามารถสร้างรายได้จากการส่งออกสูงเป็นอันดับ 2 รองจากผลิตภัณฑ์กลุ่มยางล้อรถยนต์ โดยในปี 2558 มีมูลค่าการส่งออกสูงถึง 971.37 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีสัดส่วนประมาณร้อยละ 16 ของมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ยางขั้นปลายของไทย สาเหตุสำคัญเนื่องจากอุตสาหกรรมถุงมือยางของไทยมีความได้เปรียบคู่แข่งอื่นๆ เนื่องจากประเทศไทยสามารถผลิตน้ำยางข้นซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักได้มากที่สุดของโลก ทำให้มีความได้เปรียบด้านต้นทุนเมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่างมาเลเซียที่ต้องนำเข้าน้ำยางข้นจากไทย นอกจากนี้ อุปสงค์ถุงมือยางของตลาดในประเทศและตลาดโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยหนุนสำคัญเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคสายพันธุ์ใหม่ ทำให้อัตราการใช้ถุงมือยางในวงการสาธารณสุขเพิ่มขึ้น ประกอบกับอุปสงค์ถุงมือยางที่ใช้ในอุตสาหกรรมและครัวเรือนก็เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะการใช้ถุงมือยางในอุตสาหกรรมการผลิตแปรรูอาหารและการบริการที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว