เช็คคุณสมบัติเกษตรกรเปลี่ยน "ต้นไม้" ให้กลายเป็น "โฉนด" ค้ำประกันเงินกู้ได้ หลังกระทรวงเกษตรฯ ลุยโฉนดต้นยางพารา ค้ำประกันสินเชื่อ ธ.ก.ส. เริ่ม 14 พ.ค.นี้ ตรวจสอบข้อมูลที่นี่
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เตรียมมอบ โฉนดต้นไม้และโฉนดต้นยางพารา โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับความมั่นคงในการถือครองที่ดินของเกษตรกร โดยใช้ต้นไม้และต้นยางพารา เป็นหลักทรัพย์ในการขอรับสินเชื่อจากสถาบันการเงิน นั่นคือ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้จริง
ล่าสุด ศ.ดร.นฤมล ภิณโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระบุว่า ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 นี้ กระทรวงเกษตรฯ จะเริ่มต้น Kick Off มอบโฉนดต้นไม้และโฉนดต้นยางพารา อย่างเป็นทางการ ณ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเสริมนอกภาคการเกษตร อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
คุณสมบัติของเกษตรกรที่สามารถเข้าร่วมโครงการ
เพื่อให้ต้นยางพาราถูกประเมินมูลค่าและออกเป็น “โฉนดต้นไม้” ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เกษตรกรต้องมีคุณสมบัติดังนี้
ขึ้นทะเบียนกับการยางแห่งประเทศไทย (กยท.)
มีชื่อเป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองสวนยาง ที่มีสิทธิ์ในต้นยางพาราโดยชอบด้วยกฎหมาย
วิธีการดำเนินการ
การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) จะเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการออกโฉนดต้นไม้ โดยมีขั้นตอนดังนี้
ลงพื้นที่สำรวจและ ประเมินมูลค่าต้นยางพารา ในสวนของเกษตรกร
จัดทำเอกสารรับรองต้นไม้เป็น “โฉนดต้นยางพารา”
ส่งเอกสารให้เกษตรกรนำไปใช้ยื่นขอสินเชื่อกับ ธ.ก.ส. ได้โดยตรง
ประโยชน์ที่เกษตรกรจะได้รับจากโครงการนี้
เพิ่มมูลค่าต้นยางพาราเป็นทรัพย์สินทางเศรษฐกิจ ต้นยางพาราซึ่งแต่เดิมถูกมองว่าเป็นทรัพย์สินที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ กลับกลายเป็นสินทรัพย์ที่สามารถนำไปใช้ค้ำประกันเงินกู้ได้จริง
เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องใช้ที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์อื่นค้ำประกันอีกต่อไป ช่วยลดภาระของเกษตรกรและเพิ่มโอกาสในการพัฒนาสวนยาง
ส่งเสริมการทำเกษตรแบบยั่งยืน การมีโฉนดต้นไม้ส่งเสริมให้เกษตรกรรักษาต้นไม้ ไม่ตัดโค่นโดยไม่จำเป็น เพื่อรักษาสิทธิ์ในการใช้เป็นหลักประกันสินเชื่อในอนาคต
รองรับกฎระเบียบ EUDR ของสหภาพยุโรป ช่วยให้ยางพาราไทยสามารถส่งออกได้ตามมาตรฐานใหม่ของยุโรป ที่เน้นการปลูกพืชโดยไม่ทำลายป่าไม้
สร้างรายได้เพิ่มจากการขาย “คาร์บอนเครดิต” ต้นยางที่มีการรับรองสิทธิ์จะสามารถนำไปคิดคำนวณคาร์บอนเครดิตได้ ช่วยเพิ่มรายได้เสริมให้เกษตรกรในระยะยาว
“กระทรวงเกษตรฯ มีเป้าหมายให้ต้นไม้และต้นยางพาราสามารถออกโฉนดได้ทั่วประเทศ โดยเกษตรกรสามารถใช้ประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจได้จริง พร้อมทั้งสร้างแรงใจในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และเพิ่มพื้นที่สีเขียวตามโยบายต้นไม้แห่งชาติที่มุ่งสร้างพื้นที่ร้อยละ 40 ของประเทศ ซึ่งเรามุ่งมั่นในการดำเนินงานร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อผลักดันนโยบายให้เกิดผล โดยยึดแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง และเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน”ศ.ดร.นฤมล กล่าว
อย่างไรก็ตามกระทรวงเกษตรฯจะเดินหน้าออกโฉนดต้นไม้ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยการทำงานเชิงรกุกร่วมกับชุมชนในพื้นที่ปฏิรูปที่ดิน เพื่อให้เกษตรกรได้รับประโยชน์สูงสุดจากโครงการนี้ เราต้องการให้สินทรัพย์ของเกษตรกรมีราคา สร้างมูลค่าได้ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้ดียิ่งขึ้น
ที่มา https://www.thansettakij.com/economy/trade-agriculture/626716#google_vignette