เปิดข้อมูลสู้! ไทยปัดทุ่มตลาดไม้ 'เวียดนาม-เกาหลีใต้'


KEY POINTS

  • ปัจจุบันแผ่นไม้เอ็มดีเอฟ (MDF) และแผ่นไม้ปาร์ติเกิ้ลบอร์ด (Particleboard) ของไทยถือสินค้าที่มีศักยภาพ ผลิตจากวัตถุดิบภายในประเทศ เช่น ไม้ยางพาราและไม้ยูคาลิปตัส สามารถส่งออกเพื่อเพิ่มดุลการค้าและนำรายได้เข้าสู่ประเทศมาอย่างต่อเนื่อง 
  • ปี 2567 ไทยส่งออกแผ่นไม้ MDF และแผ่นไม้ Particleboard มีมูลค่า 853.28 ล้านดอลลาร์ และ 464.74 ล้านดอลลาร์ ตามลำดับ เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2567  ประเทศคู่ค้าสำคัญอย่างเวียดนาม ได้ประกาศมาตรการไต่สวนการทุ่มตลาด (AD) กับสินค้าแผ่นไม้ MDF และแผ่นไม้ Particleboard ไทย
  • เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2567 เกาหลีใต้ก็ได้เปิดไต่สวนการทุ่มตลาดแผ่นไม้ Particleboard ไทย ส่งผลให้ผู้ส่งออกได้เสนอข้อโต้แย้งต่อการไต่สวนยังภาครัฐ เพื่อพิจารณาเสนอหน่วยงานไต่สวนของเกาหลีใต้ (KTC) โดยในปี 2567 เกาหลีใต้เป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับ 1 ของไทย มีมูลค่า 153.74 ล้านดอลลาร์  
ในความเคลื่อนไหวล่าสุดเกี่ยวกับประเด็นข้อกล่าวหาการทุ่มตลาดแผ่นไม้ปาร์ติเกิ้ลบอร์ดและ MDF จากเวียดนามและเกาหลีใต้ ประเทศไทยได้ตัดสินใจยื่นเรื่องเพื่อขอยกเลิกกระบวนการไต่สวนที่กำลังดำเนินอยู่ การตัดสินใจดังกล่าวสร้างความสนใจและอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น เบื้องหลังการตัดสินใจนี้อาจมีปัจจัยหลายประการที่น่าจับตา ซึ่งจะส่งผลต่อทิศทางของอุตสาหกรรมไม้และนโยบายการค้าระหว่างประเทศในอนาคต
นางสาวจอมขวัญ ยุวเทพากร ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมไม้อัด ไม้บางและวัสดุแผ่น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)  กล่าวว่า ในปัจจุบันแผ่นไม้เอ็มดีเอฟ (MDF) และแผ่นไม้ปาร์ติเกิ้ลบอร์ด (Particleboard) ของไทยจัดได้ว่าเป็นสินค้าที่มีศักยภาพ ผลิตจากวัตถุดิบภายในประเทศ เช่น ไม้ยางพาราและไม้ยูคาลิปตัส ซึ่งสามารถส่งออกเพื่อเพิ่มดุลการค้าและนำรายได้เข้าสู่ประเทศมาอย่างต่อเนื่อง
โดยในปี 2567 ประเทศไทยส่งออกแผ่นไม้ MDF และแผ่นไม้ Particleboard มีมูลค่ารวมเท่ากับ 853.28 ล้านดอลลาร์ และ 464.74 ล้านดอลลาร์ ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา ประเทศคู่ค้าสำคัญของไทยอย่างประเทศเวียดนาม ได้ประกาศมาตรการไต่สวนการทุ่มตลาด (AD) กับสินค้าแผ่นไม้ MDF และแผ่นไม้ Particleboard ไทย
ส่งผลให้ผู้ส่งออกมีหนังสือเสนอข้อโต้แย้งและเข้าร่วมประชุมแก้ต่างข้อกล่าวหากับหน่วยงานไต่สวนของเวียดนาม (TRAV) ซึ่งจากสถิติการค้าในปี 2567 เวียดนามเป็นตลาดส่งออกมีมูลค่าส่งออก 60.48 ล้านดอลลาร์ และในขณะเดียวกันเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2567 เกาหลีใต้ก็ได้เปิดไต่สวนการทุ่มตลาดแผ่นไม้ Particleboard ไทย ส่งผลให้ผู้ส่งออกได้เสนอข้อโต้แย้งต่อการไต่สวนยังภาครัฐ เพื่อพิจารณาเสนอหน่วยงานไต่สวนของเกาหลีใต้ (KTC) โดยในปี 2567 เกาหลีใต้เป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับหนึ่งของไทย มีมูลค่าส่งออกถึง 153.74 ล้านดอลลาร์
นายวันชัย ชัยจิรวิวัฒน์ ที่ปรึกษากลุ่มอุตสาหกรรมไม้อัด ไม้บางและวัสดุแผ่น กล่าวเสริมว่าทั้งประเทศเวียดนามและเกาหลีใต้จัดว่าเป็นตลาดส่งออกแผ่นไม้ MDF และแผ่นไม้ Particleboard สำคัญของไทย โดยนำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่อเนื่องภายในประเทศ อาทิ เฟอร์นิเจอร์และภาคการก่อสร้าง โดยเฉพาะที่เวียดนามแผ่นไม้ MDF จากไทยถูกใช้อย่างแพร่หลายในการนำไปผลิตเฟอร์นิเจอร์เพื่อการส่งออก ในขณะที่การกล่าวอ้างการไต่สวนทุ่มตลาดแผ่นไม้ Particleboard ไทยในเกาหลีใต้นั้นพบว่าเกิดจากการเปลี่ยนนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรมของรัฐบาลเกาหลีใต้ ส่งผลให้ต้นทุนวัตถุดิบสำหรับการผลิตแผ่นไม้ Particleboard ในประเทศเพิ่มสูงขึ้น และด้วยกำลังการผลิตรวมของผู้ผลิตแผ่นไม้ Particleboard ในประเทศเกาหลีใต้มีเพียง 30% ของความต้องการใช้มวลรวมในประเทศ จึงทำให้ต้องนำเข้าสุทธิมาอย่างต่อเนื่อง แต่การเลือกปฏิบัติใช้มาตรการทุ่มตลาดนั้น จะส่งผลต่อผู้บริโภคทั้ง 2 ประเทศ 
ทั้งนี้ กลุ่มอุตสาหกรรมไม้อัด ไม้บาง และวัสดุแผ่น ส.อ.ท. ได้รับการสนับสนุน ให้ความช่วยเหลือจากกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานภาครัฐ ในการประสานงานกับผู้ส่งออกและสำนักงานการค้าในต่างประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อเสนอข้อคิดเห็นและข้อโต้แย้งในการยกเลิกการเปิดไต่สวนการทุ่มตลาดสินค้าแผ่นไม้จากไทยภายใต้กฎหมายการตอบโต้การทุ่มตลาด และส่งเสริมให้อุตสาหกรรมไม้อัด ไม้บาง และวัสดุแผ่น สามารถส่งออกได้ รวมทั้งเพื่อให้การติดตามการดำเนินมาตรการไต่สวน AD ของเกาหลีใต้และเวียดนามเป็นไปตามกฎหมายและแนวทางปฎิบัติสอดคล้องกับกฎหมายภายในประเทศและพิจารณามาตรการไต่สวนให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลต่อไป
ที่มา https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1177541


















27/04/2025