ข่าวดี! รับสงกรานต์ ตลาดยางคึก อานิสงส์ "ทรัมป์" ยืดเก็บภาษี 90 วัน หนุนราคายางพลิกบวก 30 สตางค์ถึง 1 บาทต่อ กิโลกรัม ขณะที่ประธานบอร์ด กยท. โวยเรียกร้องธรรมาภิบาลจากผู้ส่งออก ราคาขยับเล็กน้อย แต่ตอนราคาลงพรวดวันเดียว กดทันทียางทุกชนิด 10-12 บาทต่อกิโลกรัม
สืบเนื่องจาก นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาประกาศระงับมาตรการการเก็บกำแพงภาษีหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยออกไป 90 วัน นั้น
สำนักงานตลาดกลางยางพาราจังหวัดสุราษฎร์ธานี รายงานสถานการณ์ราคายาง ณ วันที่ 11 เมษายน 2568 ราคายางพารา ปรับทุกชนิด ปรับราคาขึ้นมาบวก 30 สตางค์ถึง 1 บาท/กิโลกรัม ดังนี้
ตลาดยางคึก อานิสงส์ \"ทรัมป์\" ยืดเก็บภาษี หนุนราคายางพลิกบวก 30 สตางค์ถึง 1 บาทต่อกิโลกรัม
1.ราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 (ไม่อัดก้อน) ราคา 62.30 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ปรับราคาขึ้นมาจาก 30 สตางค์ต่อกิโลกรัม
2.ยางแผ่นดิบคุณภาพดี (ความชื้นไม่เกิน 3%) ปรับราคาลงมา 60.80 บาทต่อกิโลกรัม ปรับขึ้นมาจากราคาวันก่อน 0.87 บาทต่อกิโลกรัม
3.น้ำยางสด ราคา 57.50 บาทต่อกิโลกรัม ราคาคงที่
4.ยางก้อนถ้วย (DRC 100%) ราคาเหลือ 55.0บาทต่อกิโลกรัม ปรับขึ้นมา 1 บาทต่อกิโลกรัม
5.ยางก้อนถ้วย (DRC 70%) ราคาปรับลงมาเหลือ 38.50 บาทต่อกิโลกรัม ปรับลดลงมา 0.70 บาทต่อกิโลกรัม
นายเพิก เลิศวังพง ประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย (ประธานบอร์ด กยท.) กล่าวว่า ประกาศให้สังคมดูพฤติกรรมของบริษัทที่เป็นมหาชนแล้วกัน สหรัฐเลื่อนขึ้นภาษีอีก 90 วันกว่าจะปรับราคาขึ้นได้แทบจะขาดใจ แต่ตอนปรับราคาลงทันที10บาทต่อกิโลกรัม ถามหาธรรมาภิบาล แต่อย่างว่า เมืองไทยเป็นระบบการค้าเสรีแต่การค้าไม่เป็นธรรมแบบนี้มันไม่ถูกต้องไม่มีธรรมาภิบาล เลยทั้งที่เป็นบริษัทใหญ่โตทำการค้าแบบตีหัวเข้าบ้าน พอจากเจ๊งตลาดหุ้น แต่มาวางบิลกับเกษตรกร หัวใจทำด้วยอะไร
“ปีนี้ทั้งปีเจอกับผมแน่ ผมจะงัดทุกเงื่อนไขทุกข้อกฎหมายมาจัดการพวกเอาเปรียบสังคม อาจจะไม่ได้เร็วอย่างใจแต่สัญญาว่าจะไม่หยุด ถ้ายังมีพฤติกรรมแบบนี้ ถ้าจะพังก็ต้องลากไปพังด้วยกัน เพราะไหนๆมีคุณก็เหมือนมีระเบิดเวลาคอยซ้ำเติมเกษตรกรไทย ทุกวิกฤติคุณฉวยโอกาสตลอดแล้วจะทำการค้าด้วยกันได้อย่างไรบริษัทจำพวกนี้ต้องได้รับบทเรียนบ้างจะเร็วผมจะเอาคืนแน่นอน” นายเพิก กล่าวทิ้งท้าย
ด้าน สำนักงานตลาดกลางยางพาราจังหวัดสงขลา รายงานสถานการณ์ยางประจำวันศุกร์ที่ 11 เมษายน 2568 ประเทศไทยตอนบนอากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง และมีลูกเห็บตก ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎรธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
ทั้งนี้การเติบโตอย่างรวดเร็วในยุโรปช่วยยกระดับยอดส่งมอบ BEV ทั่วโลกของ Volkswagen เป็น 216,800 คัน เพิ่มขึ้น 59% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว รถยนต์ไฟฟ้าคิดเป็น 10% ของยอดส่งมอบทั่วโลกทั้งหมด เพิ่มขึ้นจาก 6% ในปีก่อนหน้า
ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ลดลง 4,000 รายสู่ระดับ 223,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ225,000 ราย
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนมีนาคม ทั้งนี้ ดัชนี CPI ทั่วไป (Headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.496 ในเดือนมีนาคม เมื่อเทียบรายปี
ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ (BSP) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เหลือ 5.5% เพื่อช่วยเศรษฐกิจรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงสงครามการค้าระหว่างประเทศ BSP นับเป็นธนาคารกลางแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ปรับเพิ่มประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยโดยคาดการณ์ GDP ปี 2568 ที่ 2.8% และปี 2569 ที่ 2.9% ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์เดิมเมื่อเดือนธันวาคม 2567 ที่ 2.7% สำหรับทั้งสองปี
โกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของ GDP จีนลงอย่างมากโดยคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะโตเพียง 496 ในปี 2568 และ 3.5% ในปี 2569 ลดลงจากคาดการณ์เดิมที่ 4.5% และ 4.0% ตามลำดับ โดยระบุว่าการปรับลดครั้งนี้เป็นผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการที่สหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนอย่างหนักหน่วง
ตลาดยางคึก อานิสงส์ \"ทรัมป์\" ยืดเก็บภาษี หนุนราคายางพลิกบวก 30 สตางค์ถึง 1 บาทต่อกิโลกรัม
ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค เดือนมีนาคม 2568 อยู่ที่ 56.7 ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า
ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ได้ออกคำเตือนว่า สถานการณ์ความเสี่ยงทั่วโลกกำลังทวีความรุนแรงขึ้น พร้อมชี้ถึงความไม่แน่นอนที่เพิ่มสูงขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าที่ขยายไปทั่วโลก
เงินบาทอยู่ที่ 33.76 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้น 0.47 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ
เงินเยนอยู่ที่ 143.52 แทนตอดอดลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้น 3.44 เผมต่อดอลลาร์สหรัฐ
- สัญญานำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 2.28 คอลลาร์ หรือ 3.66% ปิดที่ 60.07 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 2.15 ดอลลาร์ หรือ 3.28% ปิดที่ 63.33 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคายางตลาดล่วงหน้า TOCOM ส่งมอบเดือนพฤษภาคม 2568 เปิดตลาดอยู่ที่ 289.3 เยนต่อกิโลกรัม ลดลงกิโลกรัมละ 10.5 เยน และสงมอบเดือนกันยายน 2568 อยที่ 293.3 เยนต่อกิโลกรัม ลดลงกิโลกรัมละ 4.8 เยน
ราคายางตลาดล่วงหน้า SICOM วันที่ 10 เมษายน 2568 ส่งมอบเดือนพฤษภาคม 2568 ปิดตลาดที่ กิโลกรัมละ208.00 เซนต์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 8.00 เซนต์สหรัฐ
ที่มา https://www.thansettakij.com/economy/trade-agriculture/624804