กยท.หนุนสวนยาง 10 ล้านไร่ ที่มีรัฐเป็นเจ้าของพื้นที่ เข้าถึงโฉนดต้นไม้ยาง


ประธานบอร์ด กยท. ถอดโมเดล ที่ดิน ส.ป.ก. หนุนสวนยาง 10 ล้านไร่ ที่มีรัฐเป็นเจ้าของพื้นที่ เข้าถึงโฉนดต้นไม้ยาง พร้อมรับสิทธิ์ในการขอรับทุนปลูกทดแทน หวังบริหารราคายางมีเสถียรภาพระยะยาว
ดร.เพิก  เลิศวังพง ประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย (ประธานบอร์ด กยท.)  เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า วันนี้ (7 ก.พ. 2568) การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) มีการจัดประชุมประชาพิจารณ์ “ร่างประกาศคณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย เรื่อง แบบและวิธีการยื่นขอรับการส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการปลูกแทน (ฉบับที่ 5)พ.ศ.....”  โดยได้เชิญผู้แทนหน่วยงานภาครัฐผู้ดูแลที่ดินทำกินที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผู้แทนเกษตรกรชาวสวนยาง ร่วมหารือ ระดมความคิดเห็นต่อร่างประกาศฯ โดยมุ่งปรับปรุงวิธีการ เอกสารหลักฐานที่ดินเพื่อยื่นขอรับการส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการปลูกแทน เพิ่มโอกาสชาวสวนยางเข้าถึงสิทธิ์ในการขอรับทุนปลูกแทนจาก กยท. ซึ่งจากการประเมินที่ดินที่อนุญาตให้เกษตรปลูกสวนยาง ประมาณ 10 ล้านไร่ทั่วประเทศ
                                                                                                                  
อาทิ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ,กรมพัฒนาที่ดิน, กรมส่งเสริมสหกรณ์, กรมป่าไม้ ,กรมอุทยานแห่งชาติ, กรมธนารักษ์, กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งกรมทรัพยากรน้ำและบาดาลกรมการพัฒนาชุมชน เป็นต้น เข้าร่วมรับฟังความคิดเห็นและประชาพิจารณ์ในการกำหนด “ร่างประกาศคณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย เรื่อง แบบและวิธีการยื่นขอรับการส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการปลูกแทน (ฉบับที่ 5)พ.ศ......"

ทั้งนี้ ในประเด็นเรื่องการเพิ่มเติมเอกสารที่ดินที่จะใช้เป็นหลักฐานในการขอรับการส่งเสริมลงในส่วนแนบท้ายของร่างประกาศฯ เพื่อให้เกษตรกรที่มีสวนยางอยู่ในพื้นที่ที่มีหนังสืออนุญาตหรือหนังสือรับรอง หรือหนังสือสิทธิการใช้ประโยชน์ที่ดินของรัฐอื่น ๆ ที่หน่วยงานของรัฐออกให้ตามพื้นที่เป้าหมายและกรอบมาตรการแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่ป่าไม้ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 สามารถขอรับการส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการปลูกแทนกับ กยท. ได้ ลักษณะนี้จะคล้ายกับ ส.ป.ก. คือให้สิทธิทำกินเท่านั้น  

โดยเกษตรกรชาวสวนยางจะสามารถโค่นยางที่ถึงกำหนดโค่นและปลูกแทนด้วยยางพันธุ์ดีที่ให้ผลผลิตสูงกว่า หรือปลูกพืชอื่น ๆ แทนได้ซึ่งถือเป็นการสร้างโอกาสแก่เกษตรกรชาวสวนยางให้สามารถบริหารจัดการพื้นที่ทำกินของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีรายได้ต่อเนื่อง และเกิดความมั่นคงในอาชีพการทำสวนยางในที่สุด

ที่มา https://www.thansettakij.com/economy/trade-agriculture/619017


















07/02/2025