กยท.หารือภาคเอกชน ดึงผู้ประกอบกิจการยาง ร่วมกำหนดทิศทางการดำเนินงาน EUDR เดินหน้าต่อทุกรูปแบบ “ตลาดต้องไปได้ เกษตรกรต้องอยู่ได้” ดันยางไทยสู่มาตรฐานสากล
วันที่ 7 ตุลาคม 2567 นายสุขทัศน์ ต่างวิริยกุล รักษาการแทนผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยหลัง กยท. ได้ประชุมหารือร่วมกับผู้แทนจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ในการผลักดันผลผลิตยางไทยภายใต้มาตรฐาน EUDR ว่า หลังจากที่คณะกรรมาธิการส่งเสริมการสนับสนุนดำเนินการตามกฎระเบียบว่าด้วยการไม่ตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป ได้เสนอขยายระยะเวลาเริ่มบังคับใช้กฎระเบียบ EUDR ไปอีก 12 เดือน เพื่อให้ทุกประเทศมีเวลาเตรียมความพร้อมให้สามารถดำเนินงานได้อย่างราบรื่นครอบคลุมทุกมิติ
ซึ่ง กยท. ยังคงเดินหน้าผลักดันและเตรียมความพร้อมทุกรูปแบบเพื่อบริหารจัดการยางพาราตามกรอบมาตรฐาน EUDR อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องรวมถึงภาคเอกชนในการกำหนดเป้าหมายการดำเนินงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องร่วมกัน และเตรียมเข้าพูดคุยกับเกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนกับ กยท. ในทุกพื้นที่ ในการจัดหาผลผลิตยาง EUDR ให้สอดคล้องกับปริมาณความต้องการใช้ยางของผู้ประกอบการ
รวมถึงจะทำความเข้าใจกับเกษตรกรในเรื่องความเสี่ยงและแนวทางการปฏิบัติตนตามหลักเกณฑ์ EUDR อย่างจริงจัง ซึ่ง กยท. ให้ความสำคัญกับทุกภาคส่วน “ตลาดต้องไปได้ เกษตรกรต้องอยู่ได้”
“ฝากย้ำไปถึงพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางทุกท่านว่า การขยายระยะเวลาบังคับใช้กฎระเบียบนี้ เป็นการประกาศเลื่อน ไม่ใช่การประกาศยกเลิก ทิศทางในอนาคตยังคงต้องเดินหน้าตามกฎระเบียบดังกล่าว ขอให้พี่น้องชาวสวนยางอย่าตระหนกตกใจ แต่ให้ถือเป็นโอกาสในการพัฒนาปรับปรุงข้อมูลระบบให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ยางพาราไทยมีความพร้อม 100% ในการส่งออกสู่ตลาดโลก ตามมาตรฐานสากล” นายสุขทัศน์ กล่าวย้ำ
นอกจากนี้ ผู้แทนภาคเอกชนที่เข้าร่วมยังเห็นชอบราคากลางเปิดตลาดที่ กยท.กำหนด โดยถือเป็นราคาที่สมเหตุสมผล และยังเสนอให้ กยท. เปิดซื้อ-ขายยาง EUDR ทุกวัน ซึ่งจะถือเป็นก้าวใหม่ที่สำคัญในการเดินหน้าขับเคลื่อนวงการยางพารา โดยจะต้องอาศัยความร่วมมือกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป
ที่มา : https://www.prachachat.net/economy/news-1669465