การส่งออกยางของกัมพูชาตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกรกฎาคม 2024 คิดเป็นน้ำยางธรรมชาติรวม 173,915 ตัน ตามรายงานฉบับใหม่ของกรมยาง กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมง ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 1.72% จาก 170,968 ตันในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
คุณ Kakada รักษาการอธิบดีกรมยาง เปิดเผยว่า น้ำยาง 1 ตันมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 1,547 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงเดือนมกราคมถึงกรกฎาคม 2024 โดยเขากล่าวว่าตัวเลขดังกล่าวสูงขึ้นเกือบ 147 ดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
จุดหมายปลายทางในการส่งออกยางของกัมพูชาคือมาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ และจีนเป็นหลัก รายงานดังกล่าวยังระบุด้วยว่า มีการปลูกต้นยางในพื้นที่ 407,172 เฮกตาร์ จากจำนวนนี้ มีต้นไม้ 320,184 เฮกตาร์ คิดเป็น 78.6% ที่โตเต็มที่พอที่จะกรีดยางได้
“อุตสาหกรรมยางกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญมากด้วยการตั้งโรงงานผลิตยาง” ฟิลิปป์ มอนนิน กรรมการผู้จัดการของ Memot Rubber Plantation กล่าวกับ Khmer Times เมื่อวันจันทร์
“ตั้งแต่เริ่มมีการปลูกยางในปี 1910 กัมพูชาส่งออกยางที่ผลิตได้จากที่นี่มาโดยตลอด” เขากล่าวเสริม
ในช่วงทศวรรษ 1960 มอนนินอธิบายว่า โรงงานผลิตในประเทศขนาดเล็กแห่งหนึ่งผลิตยางของกัมพูชา แต่ในช่วงต้นทศวรรษ 1990 โรงงานแห่งนี้ก็ปิดตัวลงอย่างไม่มีกำหนด จากนั้นตั้งแต่ปีที่แล้ว โรงงานผลิตยางขนาดใหญ่หลายแห่งก็เริ่มร้องขอปริมาณการผลิตในประเทศจำนวนมาก
น่าเสียดายที่คุณภาพที่โรงงานปัจจุบันผลิตได้ไม่ตรงกับคุณภาพที่ผู้ผลิตยางต้องการ สถานการณ์นี้ถือเป็นความท้าทายที่แท้จริง ผู้ผลิตยางต้องนำเข้ายางจากประเทศเพื่อนบ้านแทน ซึ่งไม่น่าพอใจเลย เขากล่าว
สถานการณ์ของเกษตรกรรายย่อยยิ่งเลวร้ายลงไปอีก พวกเขายังคงส่งออกวัตถุดิบของตนโดยไม่มีโอกาสแปรรูปภายในประเทศกัมพูชา มอนนินกล่าวเสริม
“ปัญหาหลักคือการบำบัดน้ำนอกโรงงาน กระบวนการนี้ต้องใช้กรดในการทำให้ยางแข็งตัว ส่งผลให้ไม่สามารถปล่อยน้ำออกสู่สิ่งแวดล้อมโดยตรงได้ โรงงานทุกแห่งต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์หรือระบบบำบัด” เขากล่าวเสริม
แนวทางปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับการปลูกยางพาราต้องคลุมดินระหว่างแถวตลอดช่วงการเจริญเติบโตเป็นเวลา 6-7 ปี ต้องมีการปลูกพืชคลุมดินเฉพาะเพื่อหลีกเลี่ยงการไถพรวนด้วยรถแทรกเตอร์ทุกปี และให้น้ำฝนซึมเข้าไปในดินโดยไม่เกิดการกัดเซาะ
“เราได้ดำเนินการทดลองปลูกพืชคลุมดินในไร่ของเราตั้งแต่ปี 2021 และผลลัพธ์แรกๆ มีความสำคัญต่อคุณภาพของดิน” มอนนินกล่าวเสริม การทดลองเหล่านี้ได้รับการติดตามโดยสถาบันวิจัยยางแห่งกัมพูชา
เมื่อต้นปีนี้ นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ได้ยื่นคำร้องต่อโรงงานผลิตยางของกัมพูชาให้เลือกใช้ยางในประเทศสำหรับการผลิต ซึ่งจะช่วยสร้างตลาดให้กับเกษตรกรชาวสวนยางของกัมพูชาได้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมการผลิตยางของกัมพูชามีการเติบโตอย่างรวดเร็ว
บริษัทชั้นนำ 3 แห่งที่ทำธุรกิจนี้ ได้แก่ General Tires Technology, Sailun Group และ Qingdao Doublestar Group
ที่มา https://www.khmertimeskh.com/501540286/cambodias-rubber-exports-on-the-rise/