กยท.เปิดหลักเกณฑ์ซื้อขายยาง EUDR ผ่านตลาดกลาง นัดเคาะประมูลขายทุกพฤหัส ช่วงประมูลตั้งแต่เวลา 13.00 - 14.00 น. ยันตรวจสอบย้อนกลับได้ทุกล็อตที่ซื้อขายผ่านตลาดกลาง กยท.
นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย(กยท.) เผยว่า กยท. ดำเนินมาตรการส่งเสริมให้เกษตรกรชาวสวนยางก้าวสู่วิถีเกษตรยั่งยืน
ด้วยการสนับสนุนทำการเกษตรที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม (Go Green) ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายหลักของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า)โดยการผลักดันให้เกษตรกรผู้ปลูกยางพาราและผู้ประกอบกิจการยางพาราไทยมีการจัดการข้อมูลยางพาราอย่างเป็นระบบรองรับกฎระเบียบ EU Deforestation-free Products Regulation (EUDR) และมาตรฐานระดับสากลต่าง ๆ ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมของโลก
ที่ผ่านมา กยท. ได้จัดเก็บข้อมูลทะเบียนเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนกับ กยท.ทำให้สามารถระบุและแยกแยะพื้นที่สวนยาง และทราบได้ว่าผลผลิตยางจากสถาบันเกษตรกรที่นำมาขายผ่านตลาดกลาง กยท. มาจากสวนยางของสมาชิกรายใดจึงสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ทุกล็อตที่ซื้อขายผ่านตลาดกลาง กยท.ได้
ขณะนี้ กยท. ได้กำหนดให้มีการซื้อขายยาง EUDR ด้วยวิธีการประมูลผ่านระบบ TRT สัปดาห์ละ 1 ครั้ง คือ ทุกวันพฤหัสบดี โดยกำหนดช่วงประมูลตั้งแต่เวลา 13.00 - 14.00 น. ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 พ.ค. 2567 การประมูลซื้อขายยางตรวจสอบย้อนกลับผลผลิตได้ มียางจากสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง ซึ่งตรงตามหลักเกณฑ์กฎระเบียบ EUDR เข้าขายผ่านตลาดกลางฯ ของ กยท. และมีผู้ซื้อเข้าประมูลผ่านระบบเป็นจำนวนมาก ผลการประมูลยางแผ่นรมควัน ชั้น 3 ปิดราคาสูงสุดที่ 85.77 บาท/กก. และยางก้อนถ้วย (DRC 78%) ปิดราคาสูงสุดที่ 51.32 บาท/กก. คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า16.8 ล้านบาท ทั้งนี้ กยท.
จะประกาศสรุปผลราคาประมูลในแต่ละครั้งผ่านเว็บไซต์ของ กยท.(คลิกที่นี่)
“การจัดการข้อมูลยางพาราไทยให้รองรับมาตรฐานสากล ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมของโลก เป็นผลดีกับเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และเกิดประโยชน์กับวงการยางพาราทุกภาคส่วน โดยเฉพาะชาวสวนยางที่จะมีรายได้เพิ่ม นำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดี ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ เกษตรกรต้องอยู่ดี สินค้าเกษตรมูลค่าสูง ทรัพยากรเกษตรยั่งยืน”ผู้ว่าการ กยท. กล่าวย้ำ
ที่มา https://www.thansettakij.com/business/trade-agriculture/595099