บริดจสโตนร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเพื่อขยายพันธุ์ต้นวายูเล่ในรัฐแอริโซนา ผู้ผลิตยาง Bridgestone Americas Inc. ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยแอริโซนาในระยะเวลา 5 ปี มูลค่า 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อขยายการผลิตยางธรรมชาติจากต้นวายูเล่ กระทรวงเกษตรของสหรัฐฯ จะใช้เงินลงทุนจำนวน 35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ร่วมกับบริษัท บริดจสโตน อีกส่วนหนึ่ง ซึ่งเงินส่วนใหญ่จะถูกนำไปใช้เพื่อช่วยให้เกษตรกรเปลี่ยนมาปลูกต้นวายูเล่แทนที่พืชที่มีความยั่งยืนน้อยกว่าและใช้น้ำมากกว่า เช่น หญ้าแอลแฟลฟา ฝ้าย และข้าวสาลี
พันธมิตรเพิ่มเติมในโครงการ ได้แก่ Colorado River Indian Tribes, Colorado State University, ผู้ปลูกในภูมิภาค และ OpenET ซึ่งเป็นหุ้นส่วนภาครัฐและเอกชนที่อำนวยความสะดวกในการจัดการน้ำอย่างรับผิดชอบ
ต้นวายูเล่เป็นไม้ยืนต้นมีถิ่นกำเนิดในทะเลทราย Chihuahuan ทางตอนเหนือของเม็กซิโก ทางตอนใต้ของนิวเม็กซิโกและทางตะวันตกเฉียงใต้ของเท็กซัส สามารถปลูกได้โดยใช้น้ำเพียงเล็กน้อยเหมือนหญ้าหรือฝ้าย และสามารถเก็บเกี่ยวได้ทุกสองปีโดยไม่ต้องพรวนดิน และปลูกทดแทนได้ นั่นหมายถึงการสึกกร่อนของชั้นดินจะลดน้อยลงและคาร์บอนถูกกักเก็บไว้บนพื้นดินมากขึ้นแทนที่จะลอยอยู่ในชั้นบรรยากาศในรูปของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
โรงงานในทะเลทรายแห่งนี้ยังสามารถรอดพ้นจากการหยุดชะงักในการจ่ายน้ำที่เกิดจากภัยแล้งหรืออุปกรณ์ชลประทานล้มเหลว เช่นเดียวกับที่เกษตรกรจำนวนมากที่เผชิญจากโครงการ Central Arizona และที่อื่นๆ ในระบบแม่น้ำโคโลราโด
สหรัฐฯ วางแผนที่จะค่อยๆ ยุติการใช้ยางจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นฐานการผลิตและส่งออกยางธรรมชาติทั่วโลก
Bridgestone ดำเนินโครงการฯ ในรัฐแอริโซนาตั้งแต่ปี 2012 ที่ฟาร์มขนาด 280 เอเคอร์ของบริษัทในเมือง Eloy ซึ่งอยู่กึ่งกลางระหว่าง Phoenix และ Tucson บริดจสโตนวางแผนที่จะขยายฟาร์มเป็น 20,000 เอเคอร์ในอีกหลายปีข้างหน้า โดยทำงานร่วมกับเกษตรกรชาวอเมริกันพื้นเมืองเพื่อปลูกต้นวายูเล่บนที่ดินของชนเผ่า ร่วมกับเกษตรกรในพื้นที่อื่นๆ เช่นเดียวกัน
“ในที่สุด เราหวังว่าจะมีพื้นที่เพาะปลูกประมาณ 100,000 เอเคอร์ กระจายไปทั่วโรงงาน 15 หรือ 20 แห่งทั่วภาคตะวันตกเฉียงใต้” David Dierig ผู้จัดการส่วนปฏิบัติการเกษตรของ Bridgestone กล่าว บริษัท ได้กล่าวว่ามีแผนที่จะวางศิลาฤกษ์โรงงานในปีหน้า ซึ่งเป็นโรงงานแปรรูประดับอุตสาหกรรมเพื่อดูแลเกษตรกรผู้ปลูกต้นวายูเล่ในอริโซน่าที่อาจเติบโตภายใต้สัญญากับ Bridgestone ภายในปี 2571
เนื่องจากต้นวายูเล่เป็นแหล่งวัตถุดิบของยางธรรมชาติ การผลิตยางเพียงอย่างเดียวยังไม่คุ้มค่าทางเศรษฐกิจ ดังนั้น Kim Ogden หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมเคมีและสิ่งแวดล้อม จึงพยายามค้นหาผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมที่อาจได้มาจากต้นวายูเล่และทำการตลาดให้กับโครงการ เพื่อเสริมรายได้จากการผลิตผลิตภัณฑ์ยาง นอกจากปริมาณยางประมาณ 5% แล้วต้นวายูเล่ยังมีส่วนประกอบที่สามารถใช้ทำกาวธรรมชาติและสารไล่แมลงอีก 7-9% ส่วนที่เหลือของพืชเป็นมวลชีวภาพจากไม้ที่สามารถเปลี่ยนเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพหรือใช้ทำไม้ปาร์ติเคิลบอร์ดได้อีก
แม้ว่าอุตสาหกรรมวายูเล่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางในประเทศก็กำลังเติบโตในสถานที่ที่น่าสนใจบางแห่งแล้ว บริดจสโตนได้เปิดตัว Firehawk ยางล้อรถแข่งรุ่นใหม่ที่มีส่วนผสมของยางวายูเล่ที่โดดเด่นด้วยสีเขียวมะนาวบนแก้มยาง ซึ่งเปิดตัวในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขัน IndyCar Circuit ระหว่างการแข่งขัน Pit Stop Challenge เมื่อปีที่แล้ว รวมถึงรายการ Big Machine Music City Grand Prix ในแนชวิลล์ หลังจากประสบความสำเร็จในปีที่แล้ว ยางล้อนี้กำลังถูกใช้ในการแข่งขันสตรีทเซอร์กิต 5 รายการของ IndyCar ในฤดูกาลนี้
ที่มา https://rubberjournalasia.com/bridgestone-ties-up-with-university-to-expand-guayule-in-arizona/