เมืองปูเน่ อินเดีย – ตลาดระบบตรวจสอบแรงดันลมยางคาดว่าจะเติบโตที่ CAGR 10.3% มีมูลค่าถึง 7.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2032 ตามข้อมูลของ Future Market Insights
ยานพาหนะเพื่อการพาณิชย์นั้นหนักกว่าและแม้ว่าจะมีแรงดันลมยางเพียงพอ แต่ก็ประสบปัญหายางระเบิดบ่อยครั้งเนื่องจากสภาพถนนไม่ดีระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง (Tire pressure monitoring systems : TPMS) ขจัดการคาดเดาโดยแจ้งเตือนคนขับเมื่อยางของยานพาหนะเหลือน้อยในอากาศหรือยางแบน ข้อมูลนี้ช่วยลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุ และปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงให้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากแรงดันอากาศที่เหมาะสมในยางทำให้รถเคลื่อนตัวไปอย่างราบรื่น
หน่วยงานของรัฐหลายแห่งทั่วโลกได้ออกกฎระเบียบด้านความปลอดภัยของผู้โดยสารที่เข้มงวดในการผลิตรถยนต์ การขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ การริเริ่มในการนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้ พัฒนาคุณลักษณะด้านความปลอดภัยที่มีโครงสร้าง และแนวโน้มที่รัฐบาลและการนำรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติไปใช้โดยภาครัฐและผู้บริโภคคาดว่าจะสร้างโอกาสสำหรับการเติบโตในตลาด
ตลาด TPMS ทั่วโลกคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากรายได้ต่อหัวที่เพิ่มขึ้นในประเทศกำลังพัฒนา เช่นเดียวกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับคุณสมบัติระดับพรีเมียมและหรูหราในยานพาหนะในช่วงระยะเวลาคาดการณ์ ประเทศที่มีอุตสาหกรรมรถบรรทุกขนาดใหญ่วางแผนสร้างมาตรฐานการใช้ระบบตรวจสอบแรงดันลมยางในรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ขนาดใหญ่ ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้น
ระบบตรวจสอบแรงดันลมยางกำลังกลายเป็นส่วนประกอบที่เป็นนวัตกรรมใหม่ในรถยนต์ นอกจากนี้ การเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยที่นำมาใช้โดยผู้ผลิตรายสำคัญทั่วโลกคาดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการเติบโตในตลาด นอกจากนี้ คาดว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นจะช่วยขับเคลื่อนความต้องการระบบตรวจสอบแรงดันลมยางในปีต่อๆ ไป “การปรับตัวอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีในภาคยานยนต์จะช่วยกระตุ้นการนำ TPMS มาใช้ ตลาดสำหรับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงกำลังได้รับประโยชน์จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับการขับขี่ด้วยความระมัดระวังอย่างปลอดภัย กฎระเบียบของรัฐบาลว่าด้วยความปลอดภัยทางถนน ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อตลาด TMPS” นักวิเคราะห์ของ FMI กล่าว
ที่มา https://rubberworld.com/tire-pressure-monitoring-systems-market-forecast-at-7-7-billion-by-2032/?doing_wp_cron=1653717992.4352860450744628906250