สิงคโปร์—กลุ่มการศึกษายางพาราระหว่างประเทศ (International Rubber Study Group) คาดว่าความต้องการยางพาราทั่วโลกจะพลิกกลับขึ้นมาอย่างชัดเจนในปี 2021 หลังจากการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งของเศรษฐกิจโลก
ในรายงาน World Rubber Industry Outlook ฉบับเดือนกรกฎาคมของกลุ่ม ได้ระบุว่า ทางกลุ่มคาดว่าความต้องการยางพาราทั้งหมดจะพลิกกลับขึ้นมา 7.4% ในปี 2021 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และเติบโตในระดับปานกลาง 4.7% ในปี 2022
ในปีที่แล้ว ความต้องการยางพาราทั่วโลกลดลง 6% ไปอยู่ที่ 27.07 ล้านเมตริกตัน ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ก่อนหน้าของ IRSG 1.1%
IRSG ระบุว่า การหดตัวเล็กน้อยนี้เป็นผลมาจาก “การฟื้นตัวที่แข็งแกร่ง” ในครึ่งหลังของปี 2020 ในประเทศพัฒนาแล้วและประเทศจีน
สำหรับปี 2021 ทางสมาคมคาดว่าความต้องการในภาคส่วนยางล้อจะฟื้นตัว 7.2% ขึ้นมาจากการหดตัวที่รุนแรง 7.3% เมื่อปี 2020
สำหรับภาคส่วนที่ไม่ใช้ยางล้อ คาดว่าจะฟื้นตัวแข็งแรงขึ้นมาเป็น 7.6% ซึ่งได้รับแรงขับเคลื่อนจากความต้องการที่พุ่งสูงขึ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพและห่วงโซ่อุปทานของยานยนต์
IRSG ยังได้คาดว่า การบริโภคยางพาราธรรมชาติทั่วโลกจะพลิกกลับขึ้นมา 7.1% ในปีนี้ ฟื้นตัวจากการลดลง 6.8% ในปี 2020 เหลือ 12.7 ล้านตัน
ความต้องการยางพาราสังเคราะห์ทั่วโลกลดลง 5.3% เหลือ 14.4 ล้านตันในปี 2020 ทางกลุ่มคาดการณ์ว่าจะฟื้นตัว 7.6% ในปี 2021 ซึ่งได้แรงสนับสนุนจากการเติบโตที่แข็งแรงขึ้นในสหรัฐณ ยุโรป และตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย
การผลิตยางพาราธรรมชาติทั่วโลกลดลง 5.1% ในปี 2020 เหลือ 13 ล้านตัน ซึ่งตามข้อมูลจาก IRSG ระบุว่า จำนวนวันการเก็บน้ำยางทำได้ลดลงเนื่องจากสภาพอากาศที่รุนแรง การแพร่ระบาดของโรคใบร่วง และการขาดแคลนแรงงานเนื่องจากวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด
นอกจากนี้ IRSG ยังคาดว่าการปลูกยางพาราที่มีอัตราต่ำลงจะมีผลกระทบต่อปริมาณยางพาราธรรมชาติในระยะกลางและระยะยาว
การผลิตยางพาราธรรมชาติรวมในปีนี้คาดว่าจะพลิกกลับขึ้นมา 6.5% ไปอยู่ที่ 13.9 ล้านตัน และจะเกิดระดับก่อนการแพร่ระบาดในปี 2019 โดยการผลิตยางพาราธรรมชาติจะเติบโตปานกลาง 3.5% ในปี 2022
ที่มา https://www.rubbernews.com/suppliers/irsg-world-rubber-demand-rise-sharply