นิวยอร์ก, รัฐนิวยอร์ก – ตามผลการศึกษาของ Fact.MR ระบุ ยอดขายของสารเคมีเพื่อการแปรรูปยางพารามีการเติบโตช้าในปี 2020 ปิดที่ระดับสูงกว่า 5 พันล้านเหรียญสหรัฐเล็กน้อย จากผลกระทบด้านเศรษฐกิจที่ตกต่ำจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตลาดสารเคมีเพื่อการแปรรูปยางพาราทั่วโลกคาดว่าจะไปแตะที่ 6 พันล้านเหรียญสหรัฐในระหว่างช่วงที่คาด โดยมีการเติบโต CAGR ที่ 3% ขยายตัว 1.2 เท่า ในระหว่างช่วง 2021 ถึง 2023
ความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นจากอุตสาหกรรมการก่อสร้างและยานยนต์ คาดว่าจะเป็นตัวขับเคลื่อนยอดขายของสารเคมีเพื่อการแปรรูปยางพาราทั่วโลก มีการใช้งานยางพาราอย่างเข้มข้นในการผลิตสายพาน ท่อ พื้น วัสดุปูพื้น ยางล้อ และถุงมือ โดยมีการนำไปใช้งานด้านต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้นจากที่ได้มีการปรับปรุงให้ทนทานต่อความเสียหายจากโอโซน ความเครียดเชิงกล ผลกระทบจากออกซิเจน แสงอาทิตย์ และความร้อน
จากผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ทั้งหมด สารป้องกันการลามไฟในยางพาราจะมียอดขายที่เพิ่มขึ้นอัตราที่สูง ซึ่งการขายที่เพิ่มสูงขึ้นในผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้เป็นไปตามความต้องการที่เพิ่มขึ้นในการหาโซลูชั่นเพื่อช่วยป้องกันการเกิดความร้อนที่สูงเกินไปของยางล้อในภาคส่วนยานยนต์
เมื่อพิจารณาจากการนำไปใช้งาน ยอดขายของสารเคมีเพื่อการแปรรูปยางพาราสำหรับการผลิตยางล้อจะคิดเป็นเกือบ 40% ของรายได้ที่ได้จากตลาดภายในปี 2031 ความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับระบบการบ่ม (curing systems) และสารป้องกันการเสื่อมสภาพจากการเกิดปฏิกิริยากับโอโซน (antiozonants) คาดว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ทำเงินหลัก (cash cow) ด้วยระบบเหล่านี้มักจะมีการนำใช้งานในอุตสาหกรรมเพื่อป้องกันเสื่อมของยางล้อที่ทำจากยางพารา
การเพิ่มขึ้นของความต้องการสารป้องกันการเสื่อมสภาพจากการเกิดปฏิกิริยากับโอโซนในการบ่มและระบบการป้องกันการเสื่อมสภาพจากการเกิดปฏิกิริยากับออกซิเจน (antioxidants systems) จะสร้างให้เกิดรายได้ในอนาคต ตามที่มีความต้องการสารกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นเพื่อป้องกันการเสื่อมของยางล้อ ตัวอย่างเช่น บริษัท Brenntag SE ที่จำหน่ายสารทำให้คงตัว AMINOX และ BLE 65 ซึ่งทำงานในลักษณะเดียวกัน
“ความตระหนักเรื่องสุขภาพและสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้น ผลักดันให้ผู้ผลิตในภาคอุตสาหกรรมต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้แก่ตลาด โดยตลาดน่าจะเห็นผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้จำนวนมากเปิดตัวออกไป และจะสร้างให้เกิดการเติบโตในปีข้างหน้า” นักวิเคราะห์ของ Fact.MR กล่าว
ผู้เล่นสำคัญที่อยู่ในตลาดสารเคมีเพื่อการแปรรูปยางพาราทั่วโลกกำลังลงทุนในกิจกรรมการวิจัยและพัฒนาเพื่อเร่งขีดความสามารถในการผลิต โดยผู้เล่นเหล่านี้ยังได้ดำเนินการกลยุทธ์หลักต่าง ๆ เช่น การร่วมมือกัน และการควบรวมกิจการ เพื่อขยายส่วนแบ่งในตลาด
ตัวอย่างเช่น บริษัท BASF SE ผลิตสารทำให้ยางเหนียวติดกัน Koresin ที่เหมาะสำหรับการใช้งานในการผลิตยางล้อคุณภาพพรีเมี่ยมสำหรับการเป็นยางล้อทดแทน การหล่อดอกยาง การเป็นยางล้อ OEMs ยางล้อสำหรับยานพาหนะพิเศษ รถบรรทุก และรถยนต์ต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์
ผู้เล่นสำคัญที่ดำเนินงานในตลาดสารเคมีเพื่อการแปรรูปยางพาราที่ได้รับการรวบรวมโดย Fact.MR ประกอบไปด้วยบริษัท BASF SE บริษัท Arkema Group บริษัท Behn Meyer Holding AG บริษัท China Petroleum & Chemical Corporation (SINOPEC) บริษัท Eastman Chemical Company บริษัท Emerald Kalama Chemical LLC บริษัท Emery Oleochemicals Group บริษัท Kumho Petrochemical Co. Ltd. (KKPC) บริษัท Lanxess AG บริษัท Merchem Limited และบริษัท Sinochem Group Co. Ltd.
ที่มา https://www.rubberworld.com/global-rubber-processing-chemicals-market-is-expected-to-reach-6-billion-by-2031