ตลาดยางล้อหล่อดอกทั่วโลกคาดว่าจะเติบโต CAGR ร้อยละ 5 ไปจนถึงปี 2027


Selbyville รัฐเดลาแวร์ – ตามข้อมูลของรายงานข้อมูลเชิงลึกธุรกิจที่ชื่อว่า “การศึกษาขนาดของตลาดยางล้อหล่อดอกทั่วโลก ตามประเภทยานพาหนะ (รถยนต์ส่วนบุคคล รถยนต์เชิงพาณิชย์) ตามวิธีการผลิต (Pre-Cure, Mold-Cure) และการคาดการณ์ระดับภูมิภาค ช่วงปี 2020-2027” ซึ่งดูได้จาก Market Study Report LLC ระบุว่า ตลาดยางล้อหล่อดอกทั่วโลกคาดว่าการมีอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยต่อปีแบบทบต้น (CAGR) ที่ 5% ในช่วง 2020-2027 

โดยตามข้อมูลในรายงานระบุว่า ขนาดของตลาดยางล้อหล่อดอกทั่วโลกจะถูกผลักดันอย่างมากจากการผลิตและการจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นของยานยนต์ไฟฟ้า รวมไปถึงรถยนต์ส่วนบุคคลและกฎระเบียบภาครัฐที่เข้มงวดเพื่อให้มั่นใจถึงการผลิตซ้ำที่มีคุณภาพสูง นอกจากนี้ ความตระหนักที่เพิ่มขึ้นในผู้ผลิตยานยนต์ในเรื่องความมีประสิทธิภาพของยานพาหนะและการบริโภคเชื้อเพลิงจะยิ่งเร่งการขยายของอุตสาหกรรมนี้ไปอีก 

การหล่อดอกยางหมายความถึงกระบวนการผลิตซ้ำที่เกี่ยวกับการฟื้นสภาพดอกยางขึ้นใหม่ในยางล้อที่สึกหรอแล้ว การพัฒนาอย่างรวดเร็วของการผลิตยางล้อในแนวดิ่งช่วยอำนวยความสะดวกแก่การผลิตยางล้อมาตรฐานสูงด้วยการสนับสนุนของเทคโนโลยีพรีเมี่ยม ซึ่งช่วยสนับสนุนแนวโน้มอุตสาหกรรม การขาดความตระหนักในเรื่องการหล่อดอกยางล้อในผู้ผลิตรายต่าง ๆ คาดว่าจะเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาของธุรกิจในระหว่างช่วงที่ทำการศึกษา 

เมื่อกล่าวในมุมประเภทยานพาหนะ ตลาดยางล้อหล่อดอกทั่วโลกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือยานพาหนะเชิงพาณิชย์และรถยนต์ส่วนบุคคล ในด้านวิธีการผลิต ในทางอุตสาหกรรมแบ่งออกเป็นวิธี mold-cure และ pre-cure 

บริษัทสำคัญที่มีอิทธิพลต่อแนวโมตลาดยางล้อหล่อดอกในทั่วโลก คือ บริษัท Goodyear Tire and Rubber Co. บริษัท Redburn Tire Co. บริษัท Bridgestone Corp. บริษัท  Marangoni S.p.A. บริษัท  Oliver Rubber Co. บริษัท   LLC บริษัท  Michelin Group บริษัท  Valley Tire Co. บริษัท TreadWright Tires Inc. และบริษัท  Parrish Tire Co. 

ในมุมของภูมิศาสตร์ ตลาดทั้งหมดแบ่งออกเป็นอเมริกาเหนือ ยุโรป เอเชียแปซิฟิก ละตินอเมริกา และส่วนที่เหลือของโลกทั้งหมด โดยในทั้งหมดนี้ เอเชียแปซิฟิกมีส่วนแบ่งตลาดยางล้อหล่อดอกในสัดส่วนที่มากและคาดว่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดไปถึงปี 2027 ซึ่งกล่าวได้ว่าเป็นผลมาจากการผลิตและการขายที่เพิ่มขึ้นของยานพาหนะเชิงพาณิชย์และรถยนต์ส่วนบุคคล ปริมาณผู้ค้าและผู้ผลิตที่หนาแน่น กฎระเบียบที่เข้มงวดของภาครัฐที่มุ่งลดปริมาณคาร์บอน และความแพร่หลายของยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาค

ที่มา http://www.rubberworld.com/news.asp?id=30786 


















30/03/2021