กยท.ฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด อัดงบเดินหน้ายางแปลงใหญ่


หลังจากประสบผลสำเร็จในการสนับสนุน โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตน้ำยางข้นในรูปแบบเกษตรแปลงใหญ่ยางพาราของสหกรณ์เครือข่ายยางพาราจังหวัดตราด จำกัด นายประพันธ์ บุณยเกียรติ ประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เผยว่า ขณะนี้ได้เร่งขยายผลโครงการส่งเสริมการทำสวนยางในรูปแบบแปลงใหญ่ไปยังกลุ่มสหกรณ์อื่นๆ ปัจจุบันมีกลุ่มสหกรณ์ยื่น เสนอเข้าร่วมโครงการ 8 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มสหกรณ์จากจังหวัดพะเยา บึงกาฬ บุรีรัมย์ ตราด สุราษฎร์ธานี ตรัง สงขลา และสตูล

ทั้งนี้ โครงการส่งเสริมการทำสวนยางในรูปแบบแปลงใหญ่ สหกรณ์จะได้รับการจัดสรรงบประมาณ เขตละไม่เกินปีละ 100 ล้านบาท ขณะนี้ได้ดำเนินการไปแล้ว 1 เขต ที่จังหวัดตราด โดยคณะกรรมการ กยท.ได้อนุมัติเงินอุดหนุน 30.84 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 6 เขตจะพยายามเร่งพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในปี 2564

ประธานกรรมการ กยท. กล่าวต่ออีกว่า สำหรับเงื่อนไขสำคัญในการพิจารณาโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุน จะต้องเป็นโครงการที่สร้างผลประโยชน์ให้กับสมาชิกสหกรณ์ และเกษตรกรชาวสวนยางที่อยู่ในบริเวณที่สหกรณ์ตั้งอยู่ เช่น สามารถซื้อน้ำยางในราคาที่สูงกว่าท้องตลาด และไม่ต่ำกว่าราคากลางของประเทศไทยเป็นต้น ไม่จำเป็นจะต้องเป็นโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตน้ำยางข้นก็ได้ แต่จะต้องมีแผนงานดำเนินและเป้าหมายที่ชัดเจน

อย่างไรก็ตาม ภายหลังโครงการที่กลุ่มสหกรณ์ผ่านการพิจารณา และได้รับงบประมาณสนับสนุนแล้ว จะต้องดำเนินโครงการตามแผนงานที่วางไว้ การจัดซื้อจัดจ้างจะต้องเป็นไปตามระเบียบของสหกรณ์ และ กยท.ก็จะตรวจสอบให้ตรงตามระเบียบที่กำหนดไว้อีกด้วย 

 นอกจากนี้ กยท.ได้สนองนโยบายของรัฐบาลในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม หลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดย กยท.ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากงบกลางในกรอบวงเงินกว่า 754.57 ล้านบาท เพื่อเข้าร่วมดำเนินโครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่ และเชื่อมโยงตลาดในส่วนของยางพาราของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเพิ่มศักยภาพและความเข้มแข็งให้กับชาวสวนยางพารา ตลอดจนยกระดับการผลิตไปสู่เกษตรสมัยใหม่ ที่มีคุณภาพได้มาตรฐานปลอดภัยเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

“ขณะนี้ได้ดำเนินการสำรวจสวนยางแปลงใหญ่ เพื่อเข้าร่วมโครงการแล้วมีทั้งหมด 169 แปลง จากที่ กยท. ดูแล 299 แปลง จากนั้นจะเสนอโครงการให้คณะกรรมการระดับอำเภอเห็นชอบ และเสนอคณะกรรมการะดับจังหวัดเพื่ออนุมัติในลำดับต่อไป พร้อมทั้งบันทึกข้อมูลเพื่อขอรับงบประมาณจากสำนักงบประมาณ คาดว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2564” นายประพันธ์ กล่าว.

ที่มา https://www.thairath.co.th/news/local/east/2055223


















23/03/2021