กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย — ตามข้อมูลล่าสุดของสมาคมประเทศผู้ผลิตยางพาราธรรมชาติ
(Association of Natural
Rubber Producing Countries: ANRPC) ระบุ ความต้องการยางพาราธรรมชาติจะเพิ่มขึ้น 2.6% ในช่วง 3 เดือนจนถึงสิ้นเดือนตุลาคม
หลังจากลดลงต่อเนื่องมา 7 เดือน
แนวโน้มนี้เป็นผลมาจากมาตรการริเริ่มเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของสหรัฐ และโดยความต้องการจากประเทศจีน
ซึ่งฟื้นตัวจากการชะลอตัวจากโควิด-19 โดยมีการเติบโตของเศรษฐกิจในไตรมาสที่
2 ที่ 3.2% ทาง ANRPC กล่าวในการอัพเดทสถานการณ์ยางพาราธรรมชาติรายเดือนของสมาคมครั้งล่าสุด
หลังจากที่มีการฟื้นตัว “เร็วกว่าที่คาด” จีนก็ได้เพิ่มการคาดการณ์การบริโภคยางพาราธรรมชาติสำหรับปี
2020 ไปที่ 5 ล้านเมตริกตัน จาก 4.93 เมตริกตันต่อเดือนเมื่อเดือนที่ผ่านมา ANRPC ระบุ
อย่างไรก็ตาม จากความนิยมที่เพิ่มขึ้นต่อการใช้งานถุงมือยางไนไตรล์เพื่อรับมือโควิด-19 ทางมาเลเซียได้ปรับลดการคาดการณ์ความต้องการลงไปที่
522,000 ตัน จาก 603,000 ตัน ที่รายงานไปเมื่อเดือนที่ผ่านมา
จากผลของการทบทวนนี้ ทำให้รายงานการคาดการณ์ของ ANRPC สำหรับปี 2020 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 12.8 ล้านตัน จาก 12.7 ล้านตันที่คาดไว้เมื่อเดือนที่ผ่านมา
โดยตัวเลขในรายงานการคาดการณ์ที่ปรับใหม่ก็ยังลดลง 7.3% จากปีที่ผ่านมา
ตามข้อมูลของ ANRPC ระบุว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปี ความต้องการยางพาราธรรมชาติลดลง
15% เหลือ 5.91 ล้านตัน
รายงานการคาดการณ์การผลิตยางพาราธรรมชาติยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ณ สิ้นกรกฎาคม
โดยคาดว่าทั้งปีจะมีผลผลิตลดลง 4.5% เหลือ 13.2 ล้านตัน ในปี 2020
ในช่วง 6 เดือนแรกของปี การผลิตยางพาราธรรมชาติทั่วโลกลดลง
6.8% เหลือ 5.67 ล้านตัน และ ANRPC คาดว่าการผลิตจะลดลงอีก 2.4% ในระหว่างช่วง 4 เดือนไปจนถึงปลายเดือนตุลาคม
ที่มา https://www.tirebusiness.com/news/natural-rubber-demand-rebounding-anrpc