กระทรวงพาณิชย์แห่งสหรัฐอเมริกาเปิดการสอบสวนการนำเข้ายางล้อหลังได้รับการร้องเรียนจากแรงงานในอุตสาหกรรมเหล็กกล้า


Washington, D.C. - กระทรวงพาณิชย์แห่งสหรัฐอเมริกาได้เปิดการสอบสวนยางล้อที่นำเข้าจากประเทศเกาหลีใต้ ไต้หวัน ไทย และเวียดนามเพื่อพิจารณาว่าราคาจำหน่ายของยางอยู่ในระดับต่ำกว่ามูลค่ายุติธรรมหรือไม่ ทางกระทรวงฯ ยังระบุว่าจะดำเนินการตรวจสอบเพิ่มเติมเพื่อหาคำตอบว่าผู้ผลิตยางล้อในเวียดนามได้รับเงินอุดหนุนอย่างไม่เป็นธรรมหรือไม่จากการผลิตยางล้อสำหรับรถโดยสารและรถบรรทุกขนาดเล็ก (PVLT)

การตรวจสอบในประเด็นดังกล่าวมีขึ้นหลังจากการยื่นคำร้องของสหภาพแรงงานในอุตสาหกรรมเหล็กกล้า (United Steelworkers: USW) ที่เป็นตัวแทนของพนักงานภายในโรงงานผลิตยางล้อของสหรัฐฯ โดยประธานของ USW International อย่าง Tom Conway ก็เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “แม้ว่าจะมีความต้องการยางล้อในกลุ่ม PVLT เพิ่มสูงขึ้น แต่ผู้ผลิตภายในประเทศยังคงต้องดิ้นรนกับส่วนแบ่งการตลาดที่หดตัวลง ผลกำไรที่ดิ่งลง และอัตราการตกงานที่สูงขึ้น” ทางสหภาพฯ ได้รับชัยชนะเหนือประเทศจีนในปี 2015 โดยได้รับคำสั่งซื้อยางล้อนำเข้าในปริมาณที่สูงกว่า และตัวเลขการนำเข้าของจีนก็ลดลงอย่างมหาศาลมานับตั้งแต่นั้น ทำให้อุตสาหกรรมในประเทศของสหรัฐฯ สามารถลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตใหม่ได้ สหรัฐฯ มีการนำเข้ายางล้อคิดเป็นมูลค่า 4 พันล้านเหรียญสหรัฐ จาก 4 ประเทศในปี 2019 ซึ่งในจำนวนนี้เป็นของประเทศไทยจำนวน 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ และเป็นของเกาหลีใต้จำนวน 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทาง USW ระบุว่าการนำเข้ายางล้อจาก 4 ประเทศเหล่านี้มีปริมาณเพิ่มขึ้นเกือบ 20% นับตั้งแต่ปี 2017 หรือคิดเป็นยางจำนวน 85.3 ล้านเส้น

กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ได้ระบุถึงตัวเลขกำไรที่เกิดจากการทุ่มตลาดตามที่มีการกล่าวอ้าง ดังนี้ เกาหลีใต้: 43% ถึง 195%, ไต้หวัน: 21% ถึง 116%, ไทย: 106% ถึง 217.5% และเวียดนาม: 5% ถึง 22%  ทั้งนี้ USW เป็นตัวแทนของแรงงานในโรงงานผลิตยางของบริษัท Michelin, Goodyear, Cooper, Sumitomo และYokohama ที่ตั้งอยู่ ณ รัฐโอไฮโอ, อาร์คันซอ, นอร์ธ แคโรไลนา, แคนซัส, อินเดียนา, เวอร์จิเนีย, นิวยอร์ก และแอละบามา ทว่าในเดือนนี้ ทางบริษัท Hankook Tires ได้ออกมาเรียกร้องให้กระทรวงพาณิชย์ยุติการตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวโดยให้เหตุผลว่าอุตสาหกรรมยางล้อในสหรัฐฯ นั้น “ยังคงมีความแข็งแกร่งและกำลังเติบโต” โดยทาง Hankook ได้ยื่นเอกสารที่ระบุว่าของอุตสาหกรรมผู้ผลิตยางล้อในประเทศนั้น “ไม่ได้ถูกคุกคามอย่างมีนัยสำคัญในภาพรวม และไม่ได้มีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญจากการนำเข้าดังกล่าว” ในประเด็นนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของเวียดนามได้แจ้งต่อกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯว่าเศรษฐกิจของเวียดนามนั้น “ต้องพึ่งพายานพาหนะขนาดเล็กและรถยนต์โดยสารเป็นหลักในการเดินทาง การขนส่ง และท่องเที่ยว อุตสาหกรรมยางล้อสำหรับรถในกลุ่ม PVLT จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจของชาติเรา”

ที่มา http://www.rubberworld.com/news.asp?id=29707


















06/08/2020