ไฮเดอราบัด, อินเดีย –
ขนาดของตลาดถุงมือทางการแพทย์แบบใช้แล้วทิ้งคาดว่าจะมีมูลค่า 8.73
พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2025
เติบโตที่อัตรา CAGR 9.18% ในระหว่างช่วงปี 2020–2025 ที่คาดการณ์ ตามข้อมูลของ
IndustryArc.com ถุงมือทางการแพทย์เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลในอุตสาหกรรมสาธารณสุขที่ใช้เพื่อปกป้องผู้สวมใส่และ/หรือผู้ป่วยจากการกระจายการแพร่เชื้อหรือการเจ็บป่วยในระหว่างกระบวนการทางการแพทย์และการตรวจโรค
ถุงมือทางการแพทย์เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การควบคุมการติดเชื้อ
ถุงมือทางการแพทย์แบบใช้แล้วทิ้งมีการใช้งานอย่างแพร่หลายเพื่อป้องกันการส่งต่อการติดเชื้อ
ความชุกที่เพิ่มขึ้นของการติดเชื้อจากไวรัสในประเทศสำคัญต่าง ๆ
ของโลกและความตระหนักด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้นส่งผลเพิ่มอุปสงค์สำหรับถุงมือทางการแพทย์แบบใช้แล้วทิ้งในภาคส่วนด้านสุขภาพ
ประโยชน์ของถุงมือทางการแพทย์แบบใช้แล้วทิ้งต่าง ๆ เช่น ให้มีการทำงานที่ปลอดภัยขึ้นและการป้องกันระหว่างผิวหนังและสารอันตรายทางชีวภาพที่ดีขึ้น
รวมถึงการเปิดตัวสินค้าที่สำคัญต่าง ๆ จากผู้เล่นรายสำคัญในตลาด ก็จะเป็นปัจจัยที่ขับเคลื่อนให้เกิดการเติบโตของตลาด
ถุงมือยาง (latex gloves)
(ยางธรรมชาติ) มีส่วนแบ่งตลาดใหญ่ที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทต่าง ๆ ของตลาดถุงมือทางการแพทย์แบบใช้แล้วทิ้งในปี
2019 ซึ่งคาดว่าจะโตที่อัตรา CAGR ที่ 5.2% ในระหว่างช่วงปี 2020–2025 ที่คาดการณ์
คุณภาพที่ดีขึ้นของถุงมือยาง เช่น ความพอดีที่ดีขึ้น การยืดที่ดีขึ้น
การยึดเกาะอุปกรณ์การผ่าตัดและความรู้สึกทื่ลื่นไหลขึ้น
เป็นปัจจัยที่ช่วยเพิ่มอุปสงค์ของถุงมือยาง ถุงมือยางถูกใช้งานโดยทั่วไปในกระบวนการทางการแพทย์ส่วนใหญ่เนื่องจากประโยชน์ของมันและราคาที่ต่ำ
จากการเพิ่มขึ้นของการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ในระดับโลก
ความต้องการถุงมือยางธรรมชาติก็พุ่งสูงขึ้นในตลาดด้านสาธารณสุขในภูมิภาคต่าง ๆ
ทั่วโลก
ผลิตภัณฑ์กลุ่มไนไตรล์ยังมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ
2 ถุงมือไนไตรล์ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันที่แข็งแรงกว่าและดีกว่าและการทนทานต่อสารเคมีได้มากกว่า
โดยถุงมือไนไตรล์มีการทนทานต่อสารเคมี น้ำมัน และกรด มากกว่าถุงมือยางธรรมชาติ
และยังมีความแข็งแรงที่เหนือกว่า
ในด้านถุงมือไวนิลยังคงการเติบโตที่ต่อเนื่องในปีที่ผ่าน
ๆ มา เนื่องจากประสิทธิผลต้นทุนและการเข้าถึงง่าย
โดยถุงมือไวนิลเป็นถุงมือจากวัสดุสังเคราะห์ที่ทำจากพอลิไวนิลคลอไรด์ (polyvinyl
chloride: PVC)
โดยไวนิลจะยืดหยุ่นน้อยกว่าถุงมือไนไตรล์และถุงมือยาง ทำให้สามารถใส่ได้อย่างหลวม
ๆ และให้ความรู้สึกที่ราบลื่นและสบายกว่า อย่างไรก็ดี
คาดว่าถุงมือไนไตรล์จะเป็นกลุ่มที่เติบโตเร็วที่สุดและคาดว่าจะมีอัตรา CAGR
ที่สูงที่สุด ในระหว่างช่วงปี 2020–2025 ที่คาดการณ์
เนื่องจากการใช้งานในโรงพยาบาลและศูนย์ทางสาธารณสุขที่เพิ่มขึ้นจากข้อได้เปรียบเรื่องการปราศจากส่วนผสมของน้ำยางและด้านการผลิต
10 บริษัทรายใหญ่สุดในตลาดถุงมือทางการแพทย์แบบใช้แล้วทิ้ง
ได้แก่ Ansell Limited, B. Braun Melsungen Ag, Cardinal Health Inc,
Dynarex Corporation, Hartalega Holding Berhad, Kossan Rubber Industry Bhd, Rubberex
Corp. M Bhd, Semperit Ag Holding, Supermax Corporation Berhad และ
Top Glove Corporation Berhad
ที่มา https://www.rubberworld.com/news.asp?id=29595