จากมาตรการที่เคร่งครัดในการคัดกรองจุดผ่านชายแดนระหว่างกัมพูชากับเวียดนาม
เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 นั้น
ได้ส่งผลให้ยอดการส่งออกยางพาราดิ่งลงอย่างเห็นได้ชัด “จะมีผลกระทบต่อการส่งออกยางพาราตราบใดที่ยังมีมาตราการที่เคร่งครัดที่จุดผ่านชายแดนอยู่”
นาย Heng Sreng ผู้ส่งออกยางพาราท้องถิ่นกล่าว
นาย Sreng ซึ่งเป็นผู้จัดการทั่วไปของบริษัท
Long Sreng International เป็นเจ้าของสวนยางพารา Boeung
Ket ซึ่งอยู่ในจังหวัดกำปงจาม ประเทศกัมพูชา นาย Sreng กล่าวว่า บริษัทของเขาส่งออกยางพาราได้เพียงแค่เล็กน้อยในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ อันเป็นผลเนื่องมาจากข้อกำหนดที่เคร่งครัดดังกล่าว
ยอดการส่งออกยางพาราที่ส่งไปยังตลาดต่างประเทศมีเพียงแค่ 50
ตัน ซึ่งลดลงกว่าปีที่แล้วที่มียอดส่งออกประมาณ 250 ถึง 300 ตัน
เช่นเดียวกับ นาย Men Sopheak เจ้าของและผู้อำนวยการของ Sopheak Nika Investment Agro-Industrial
Plants ผู้นำด้านสวนยางพาราและการส่งออกที่มีพนักงานร่วม 5,000 คน ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ผลจากการระบาดของไวรัสและกฎระเบียบที่เคร่งครัดทำให้ไม่มียอดส่งออกในเดือนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ส่งออกยางพาราประมาณ 1,000
ตันไปยังประเทศจีนในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2563 ซึ่งถือเป็นยอดที่ลดลงเล็กน้อยจากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว
ราคายางพาราได้ลดลงจาก 1,300 เหรียญสหรัฐ ไปอยู่ที่ 1,100 เหรียญสหรัฐ ต่อตัน
และคาดว่าราคาจะลดอย่างต่อเนื่องจนถึงปลายปี “เราคาดว่าราคายางพาราจะยังได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะประเทศผู้แปรรูปยาง อันได้แก่ จีน สหรัฐอเมริกาและยุโรป
เนื่องจากความต้องการของผู้ผลิตและแปรรูปยางพารามีอัตราที่ลดลง”
“ภายใต้สภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจ
ผมคิดว่าราคายางคงยังไม่ดีขึ้นในอีก 3-4 เดือนข้างหน้านี้แน่
และจะส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทอันเนื่องจากราคาในท้องตลาดและยอดขายที่ลดลงในแต่ละวัน”
นาย Sopheak กล่าว
ที่มา http://rubberjournalasia.com/cambodian-rubber-exports-decline-sharply-after-strict-border-security/