กว่างโจว, จีน — ตามข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน ระบุว่า
รายได้ที่ได้จากอุตสาหกรรมยางพาราของจีนไม่เปลี่ยนแปลงนักจากปีที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับปี
2017 ซึ่งอยู่ที่ 1.05
แสนล้านเหรียญสหรัฐ มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น 4.4% ไปที่ 2.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
จำนวนของบริษัทขนาดใหญ่มากในสาขายางพาราของจีน
ซึ่งรวมผู้ผลิตยางล้อ ลดลงไป 79 ราย เหลือ 3,565 ในปี 2018 หลังจากที่ปี 2017 ลดลง
324 ราย
กำไรรวมที่เกิดจากอุตสาหกรรมนี้เพิ่มขึ้น 2.1%
ไปที่ 4.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ
“ดูเหมือนว่ามีเพียงบางบริษัทที่มีการดำเนินงานที่ดีขึ้น
แต่นั่นเป็นเพียงเพราะยังมีพื้นที่ในตลาดว่างที่ให้เข้ามาเติมเต็มในช่วงซบเซา”
Xu Wenying เลขาธิการของสมาคมอุตสาหกรรมยางพาราแห่งจีน (China
Rubber Industry Association: CRIA) กล่าวที่งานสัมมนายางพาราของจีน
ในเมืองกว่างโจวเมื่อช่วงต้นปี
การคาดการณ์ของสมาคมสำหรับทรัพย์สินรวมของบริษัท
“ขนาดใหญ่มาก” ว่ามีการลดลง 1.4% เมื่อปีที่ผ่านมา เหลือ 1.20
แสนล้านเหรียญสหรัฐ โดยในการประเมินนี้พบว่า ทรัพย์สินของผู้ผลิตยางล้อลดลง
6% เหลือ 7.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
CRIA ยังทำการสำรวจอัตราการเติบโตในปี 2017
และ 2018 ของบริษัทรายสำคัญของสาขานี้ 388
บริษัท
นาย Xu กล่าวว่า
ผลสำรวจเผยให้เห็นการลดลงอย่างชัดเจนในการผลิต การขาย และการส่งออก โดยนาย Xu ได้ให้ความเห็นต่อว่า “อัตราการเติบโตของกำไรที่การกระโดดขึ้นมาในปี 2018
หมายความเพียงว่า พวกเรามีปี 2017 ที่แย่มากจริง
ๆ”
ข้อมูลรายเดือนชี้ว่า
“มีสหสัมพันธ์เชิงบวกที่ชัดเจนระหว่างอัตราการเติบโตด้านมูลค่าการผลิตและมูลค่าการส่งออก”
เลขาธิการ CRIA กล่าว
เมื่อลงรายละเอียดรายกลุ่ม จาก 388 บริษัทสำคัญ
คาร์บอนแบล็คมีการเติบโตที่ชัดเจนที่สุดในด้านของรายได้และการส่งออก
ในขณะที่รองเท้ายางพารามีการเติบโตติดลบสำหรับทั้งด้านรายได้และการส่งออก
เมื่อดูจากข้อมูลจากบริษัทสำคัญเหล่านี้ ในปี 2018
ภาคส่วนยางพาราในภาพรวมของจีนมีอัตราผลกำไรที่ 5.4% ในขณะที่กลุ่มยางล้อมีอัตราผลกำไรอยู่ที่ 3.1% ซึ่งต่ำกว่าสาขายางพาราภาพรวมในทั้ง
3 ปี
“นักลงทุนต้องระมัดระวังในการลงทุนโครงการยางล้อใหม่
ๆ” นาย Xu กล่าว โดยระบุว่า ปัจจัยเช่น
ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างประเทศ การเพิ่มขึ้นของต้นทุนทางการเงินในสกุลเหรียญสหรัฐ
การลดลงของยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลภายในประเทศซึ่งเกิดเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษ
รวมไปถึง Brexit และความไม่แน่นอนอื่น ๆ
ล้วนเป็นสาเหตุของการซบเซา
ที่มา https://www.tirebusiness.com/news/slowdown-ahead-china-rubber