ปารีส — รายได้จากยอดขายของเครือ Michelin เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.3
ในไตรมาสที่สิ้นสุดเมื่อ 31 มีนาคม ที่ 6.6
พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นผลจากส่วนผสมด้านราคาที่แข็งแกร่งและธุรกิจที่บริษัทเพิ่งเข้าซื้อกิจการ
รายได้ของ Michelin
เพิ่มขึ้น แม้ว่าปริมาณการขายจะลดลงร้อยละ 0.5 โดยเกิดจากผลของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่เอื้อต่อบริษัท
บริษัทรายงาน
Michelin ไม่เปิดเผยรายได้ในครั้งนี้
แต่กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกทำให้บริษัทยืนยันถึงการคาดการณ์สำหรับปี
ค.ศ. 2019 ที่ได้เผยแพร่ไปก่อนหน้า — รายได้จากส่วนการปฏิบัติงานจะเกินระดับของ
ค.ศ. 2018 (ที่อัตราแลกเปลี่ยนคงที่)
และการเติบโตในด้านปริมาณที่สอดคล้องกับแนวโน้มตลาดโลก
ตามอัตราแลกเปลี่ยน
ณ เมษายน ค.ศ. 2019 Michelin กล่าวว่า ผลของอัตราแลกเปลี่ยนคาดว่าจะมีผลที่เอื้อต่อบริษัทในส่วนรายได้จากการปฏิบัติงาน
ในขณะที่ผลต่อต้นทุนวัตถุดิบประมาณการว่าอยู่ที่ประมาณติดลบ 114 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะมีผลต่อครึ่งแรกเป็นหลัก
Jean-Dominique Senard CEO กล่าวว่า Michelin
“ได้แสดงให้เห็นอีกครั้งหนึ่งถึงความแข็งแกร่งของเครือที่มีธุรกิจในภาคส่วนทางเศรษฐกิจต่าง
ๆ” แม้ในตลาดที่ดูมีความยากลำบาก
Mr. Senard ระบุว่า Michelin
คาดว่าจะมีการเติบโตพอประมาณในตลาดยางล้อทดแทนของรถบรรทุกขนาดเล็ก/รถยนต์ส่วนบุคคล
แต่จะมีการหดตัวในธุรกิจรับผลิตสินค้า (original equipment)
การหดตัวเล็กน้อยในตลาดรถบัส/รถบรรทุก และธุรกิจที่มี “พลวัต”
ในภาคส่วนการทำเหมือง อากาศยาน และยานพาหนะสองล้อ
การเข้าซื้อกิจการของ
Camso Inc. และ Fenner P.L.C
ในปีที่ผ่านมา สร้างรายได้ประมาณร้อยละ 75 ของรายได้ที่เพิ่มขึ้นของ
Michelin ที่รายงานในไตรมาสดังกล่าว
ยอดขายเพิ่มเติมของทั้งสองธุรกิจเข้าไปที่ภาคส่วนธุรกิจเฉพาะทางของ Michelin โดยเกือบจะเทียบได้กับภาคส่วนการขนส่งทางถนน (ยานพาหนะเชิงพาณิชย์) ที่สร้างรายได้ร้อยละ
25 ของรายได้รวมของบริษัท
ส่วน Automotive
(ยางล้อรถบรรทุกขนาดเล็ก/รถยนต์ส่วนบุคคล) ของ Michelin รายงานการเติบโตของรายได้ที่ร้อยละ 0.2 ไปที่ 3.17 พันล้านเหรียญสหรัฐ ตามที่ธุรกิจ OE มีรายได้ลดลงร้อยละ
8 และธุรกิจการทดแทนเติบโตขึ้นร้อยละ 1
โดยยอดขาย OE ลดลงในทุกภูมิภาค ในขณะที่ยอดขายยางล้อทดแทนเพิ่มขึ้นในภูมิภาคอเมริกากลางและเหนือ
เอเชีย และแอฟริกา/ตะวันออกกลาง
ความต้องการยางล้อทดแทนเพิ่มขึ้นร้อยละ
5 ในสหรัฐอเมริกา เกิดจากการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นล่วงหน้าก่อนที่ภาษีการนำเข้าอัตราใหม่จะบังคับใช้
Michelin กล่าว
ในธุรกิจยางล้อรถบัส/รถบรรทุก
ยอดขายยางล้อทดแทนลดลงร้อยละ 2 ในขณะที่ยอดขาย OE เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 โดยในอเมริกาเหนือ ธุรกิจ OE
เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 ในขณะที่ยอดขายยางล้อทดแทนลดลงร้อยละ
7 จากการที่ดีลเลอร์มุ่งลดสินค้าคงคลังที่สะสมตั้งแต่ปลายปี
ค.ศ. 2018 จากการคาดการณ์ภาษีนำเข้าอัตราใหม่ที่จะเก็บจากผลิตภัณฑ์ของประเทศจีน
ที่มา https://www.tirebusiness.com/financial/michelin-sales-11-q1-66-billion