กัวลาลัมเปอร์ — การผลิตยางธรรมชาติทั่วโลกเติบโตขึ้นร้อยละ
4.6 ในปี ค.ศ. 2018 ไปที่เกือบ 14
ล้านตัน ในขณะที่ความต้องการ NR ทั่วโลกเพิ่มขึ้นร้อยละ
5.2 ไปที่ 14 ล้านตันในปีเดียวกัน
นำไปสู่การขาดแคลนถึง 57,000 ตัน ตามการรายงานของสมาคมประเทศผู้ผลิตยางธรรมชาติ
หรือ Association of Natural Rubber Producing Countries (ANRPC)
ANRPC ระบุว่าราคา NR มีการ
“ฟื้นตัวในระดับหนึ่ง” ในระหว่างเดือนธันวาคมทั้งในตลาดซื้อขายสินค้าจริงและตลาดซื้อขายล่วงหน้า
“การกระเตื้องขึ้นนี้ทำให้ราคาเฉลี่ยยางแท่งและยางแผ่นสำหรับเดือนธันวาคม
ค.ศ. 2018 ทำจุดต่ำสุดใหม่ที่สูงขึ้นกว่าจุดต่ำสุดเดิม ที่
1.50 เหรียญสหรัฐต่อกิโลกรัม เมื่อสิ้นสุดปี ค.ศ. 2018”
ANRPC กล่าว
โดยไม่นานมานี้ ประเทศอินโดนีเซีย
ประเทศมาเลเซีย และประเทศไทย — ที่รู้จักร่วมกันว่าคือ สภาไตรภาคียางพารา
— ตกลงกันว่าจะลดการส่งออก NR ที่ปริมาณรวม
200,000 ถึง 300,000 ตัน เพื่อแก้ปัญหา
“ระดับราคา NR ตกต่ำ”
เจ้าหน้าที่ของ ANRPC กล่าวในแง่ดีว่า
การผ่อนคลายความตึงเครียดระหว่างประเทศจีนและสหรัฐอเมริกาน่าจะให้ “ผลลัพธ์ที่ดี”
ในอีกไม่กี่สัปดาห์
ประธานาธิบดีทรัมป์เลื่อนการเก็บภาษีศุลกากรร้อยละ
25 กับสินค้าของประเทศจีนซึ่งมีมูลค่าเทียบเท่า 200 พันล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์
ออกไป ซึ่งสินค้าดังกล่าวอยู่ในอัตราภาษีศุลกากรที่ร้อยละ 10 ตั้งแต่เดือนกันยายน โดยรวมถึงยางล้อ สารเคมียาง
สินค้ายางพาราที่ผ่านการผลิตแล้ว และยางธรรมชาติและยางสังเคราะห์
ที่มา https://www.tirebusiness.com/article/20190301/NEWS/190309987/natural-rubber-production-consumption-rise-in-2018