ประเทศบราซิลมองว่าภูมิภาคละตินอเมริกาเป็นแหล่งของยางธรรมชาติ
(NR) ที่จะช่วยตอบสนองความต้องการยางธรรมชาติสำหรับการผลิตโภคภัณฑ์ภายในประเทศ
โดยผู้อำนวยการบริหารของสมาคมผู้ผลิตยางธรรมชาติในบราซิล หรือ Association
of Natural Rubber Producers in Brazil (ABRABOR) นาย Diogo
Esperante กล่าวในการศึกษาของเขาว่า ความต้องการ NR จำนวน 213,000 ตันของบราซิลนั้นเกินกว่าปริมาณที่ผลิตได้ภายในประเทศซึ่งผลิตอยู่ที่
187,000 ตัน นี่หมายความว่าร้อยละ 53
ของปริมาณการบริโภคต้องมาจากแหล่งจากต่างประเทศ
“ด้วยประเทศอื่นในภูมิภาคนี้ต่างก็ขยายกำลังผลิต
เช่น ประเทศโคลัมเบีย ที่ภายใน 5
ปีข้างหน้าจะขยายพื้นที่กรีดยางประมาณ 6 หมื่นเฮกแตร์ พวกเราก็มองว่าแนวโน้มนี้ก็อาจจะเพิ่มขึ้นในยางแท่งด้วย
โดยเฉพาะเนื่องจากแรงจูงใจทางภาษีในภูมิภาคระหว่างประเทศต่าง ๆ
และต้นทุนค่าขนส่งที่ราคาถูกลง” นาย Esperante
เขียนไว้ในบลอกออนไลน์ของเขาซึ่งเผยแพร่โดยกลุ่ม Rubberstudy
ใน ค.ศ. 2018 ประเทศบราซิลเริ่มนำเข้ายางแท่ง
324 ตันจากประเทศโคลัมเบีย แม้ว่าเป็นปริมาณน้อย แต่นาย Esperante มองว่าเป็นสัญญาณว่าบริษัทของบราซิลไม่เพียงแต่ต้องการกระจายแหล่งที่มาเท่านั้น
แต่ยังต้องการซื้อจากในภูมิภาคด้วย
โดยก่อนหน้านี้ บราซิลนำเข้ายางแท่งร้อยละ 80 จากอินโดนีเซียและประเทศไทย ในขณะที่ร้อยละ 60 ของน้ำยาง
centrifuged latex มาจากประเทศไทยเพียงประเทศเดียว
ในปัจจุบัน เกิดการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมยางตั้งแต่มีความผันผวนของน้ำยางของกัวเตมาลาในประเทศบราซิล
ดังนั้น นาย Esperante เสนอแนะว่า แผนระดับภูมิภาคต่าง ๆ
และการบูรณาการกันของตลาดต้องกระทำเพื่อสนับสนุนการขยายตัวของ NR ในละตินอเมริกา
นาย Diogo Esperante
เป็นผู้อำนวยการบริหารของ APABOR
ซึ่งเป็นสมาคมผู้ปลูกและแปรรูป NR ของเมือง S?o Paulo ประเทศบราซิล นอกจากนี้ เขายังรับผิดชอบในแผนงานการตรวจติดตามเชิงสถิติของสมาคมผู้ผลิตยางธรรมชาติแห่งชาติของบราซิล
(ABRABOR)
ที่มา http://rubberjournalasia.com/brazil-compensates-nr-demand-with-latin-american-imports/