สมัครสมาชิก
เข้าสู่ระบบ
ผู้ประกอบการ
ผู้ประกอบการ
แยกตามประเภทกิจการ
แยกตามผลิตภัณฑ์
ผลิตและจำหน่าย
การผลิต
การจำหน่ายตามกลุ่มผลิตภัณฑ์
การจำหน่ายของผู้ประกอบการส่งออก
การจำหน่ายตามกลุ่มผลิตภัณฑ์(New)
การจำหน่ายของผู้ประกอบการส่งออก(New)
สถิติการค้า
สถิติการค้าไทย
สถิตินำเข้า
สถิตินำเข้ารายผลิตภัณฑ์
สถิติส่งออก
สถิติส่งออกรายผลิตภัณฑ์
สถิติการค้าสากล
Supply & Demand
สถิตินำเข้าสากล
สถิติส่งออกสากล
ราคายาง
ยางธรรมชาติ(ในประเทศ)
ยางธรรมชาติ(ต่างประเทศ)
ยางสังเคราะห์ (CIF Bangkok)
ข่าวสาร
เศรษฐกิจ
เทคโนโลยี
กฏระเบียบมาตรฐาน
มาตรการการค้า
นโยบาย
ไม้ยางและผลิตภัณฑ์จากไม้
คลังความรู้
เทคโนโลยีการผลิตผลิตภัณฑ์ยาง
เทคโนโลยีการผลิตและแปรรูปไม้
Supply Chain
รายงาน
สถานการณ์รายเดือน
สถานการณ์รายไตรมาส
สถานการณ์รายปี
บทวิเคราะห์
รายงานการศึกษาเชิงลึก
Executive Summary
มาตรการ
มาตรการทางการค้า
กฎ ระเบียบ และนโยบาย
ไทยเจ้าภาพ จัดประชุม ITRC สมัยพิเศษ หารือ - ร่วมกำหนดมาตรการเพื่อรักษาเสถียรภาพยาง
Subheading
ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีไตรภาคียางระหว่างประเทศ (ITRC) สมัยพิเศษ ร่วมกับรัฐมนตรีจากประเทศผู้ผลิตยางพารารายใหญ่ 3 ประเทศ โดยมี
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประธานการประชุม พร้อมด้วย H.E. Darmin Nasution รัฐมนตรีว่าการกระทรวงประสานงานกิจการเศรษฐกิจสาธารณรัฐอินโดนีเซีย และ H.E Teresa Kok Suh Sim รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมขั้นพื้นฐานของมาเลเซีย เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากรัฐบาลประเทศสมาชิก ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แถลงว่า ทุกประเทศตระหนักถึงความสำคัญของการแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ จึงมีการนำเอานโยบายต่างๆ แก้ไขปัญหา ตั้งแต่การพยายามลดการพึ่งพาการส่งออก เพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราในประเทศให้มากขึ้นให้เกิดสมดุล ด้วยการลดปริมาณการผลิตยางธรรมชาติลง เพื่อทำให้ราคายางพาราในประเทศมีเสถียรภาพ ด้าน ITRC และ IRCo (เออโก้) มีความพยายามแก้ปัญหาดังกล่าวโดยการกำหนดนโยบายและโครงการต่างๆ ขึ้น ได้แก่ โครงการส่งเสริมด้านอุปสงค์เพิ่มปริมาณการใช้ยาง โครงการประกวดผลิตภัณฑ์หรือนวัตกรรมจากยางธรรมชาติ และการสร้างแบบจำลองในการพยากรณ์อุปสงค์ยางพาราโลก
นายกฤษฎา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับประเทศไทยได้มีการกำหนดนโยบายและแนวทางในการแก้ปัญหาราคายางทั้งนโยบายระยะสั้น และระยะยาว ได้แก่ การจัดทำโครงการพัฒนาอาชีพแก่เกษตรกรชาวสวนยางเพื่อให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นในช่วงระหว่างที่ราคายางพาราตกต่ำ โดยเชิญชวนและรับสมัครเกษตรกรชาวสวนยางทั่วประเทศที่สนใจเข้าร่วมโครงการฝากน้ำยางไว้กับต้นยาง หรือหยุดกรีดยางเป็นเวลา 1 - 2 เดือน การส่งเสริมและเร่งรัดการใช้ยางพาราและผลิตภัณฑ์ยางพาราในประเทศให้มากขึ้นอย่างเร่งด่วน โดยเริ่มจากหน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐ เพื่อให้มีการใช้ผลิตภัณฑ์ วัสดุ ครุภัณฑ์ สิ่งก่อสร้างที่มีส่วนผสมของยางพาราเพิ่มมากขึ้น เช่น บล็อกยางปูพื้น ยางปูสนามฟุตซอล และถนนยางพาราแอสฟัลต์ติกคอนกรีต เป็นต้น นอกจากนี้ โครงการเร่งด่วนที่ผลักดันให้มีการดำเนินในปัจจุบัน ได้แก่ การสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศสร้างถนนยางพารากว่า 75,000 หมู่บ้านทั่วประเทศ โดยมีการสร้างถนนที่มีส่วนผสมของยางพาราในอัตราหมู่บ้านละ 1 กิโลเมตร เพื่อดูดซับน้ำยางออกจากระบบตลาด และเพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราภายในประเทศ ขณะเดียวกันก็ได้เชิญชวนบริษัทเอกชนทั้งใน และต่างประเทศให้เข้ามาลงทุนผลิต และแปรรูปยาง โดยให้มีสิทธิพิเศษทางการลงทุน นอกจากนี้ รัฐบาลไทย ก็มีมาตรการในการการควบคุมการผลิตโดยเชิญชวนให้เกษตรกรปลูกพืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ทดแทนยางพารา เช่น กาแฟ โกโก้ รวมทั้งสนับสนุนให้มีการลงทุนในอุตสาหกรรมด้านยางพาราภายในประเทศ เช่น ผลิตล้อยาง
"นโยบายของประเทศผู้ผลิตยางเพียงประเทศเดียว ยังไม่สามารถพัฒนาอุตสาหกรรมยางธรรมชาติได้ยั่งยืน ดังนั้น จึงมีการประชุมร่วมกันระหว่าง 3 ประเทศ เพื่อหาวิธีการและมาตรการแก้ไขปัญหาราคายางพาราให้มีเสถียรภาพ โดยที่ประชุมเห็นชอบให้มีการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่อาวุโส เพื่อร่วมกันหาแนวทางการรักษาเสถียรภาพราคายางอย่างยั่งยืน โดยมีมาตรการเบื้องต้นประกอบด้วย 1. มาตรการจำกัดปริมาณการส่งออกยางของ 3 ประเทศ รวมจำนวน 200,000 - 300,000 ตัน 2. มาตรการหาวิธีเพิ่มปริมาณการใช้ยางในประเทศให้เพิ่มขึ้น 3. มาตรการการบริหารจัดการผลผลิตในประเทศ โดยการลดพื้นที่ปลูกยางพาราไปปลูกพืชชนิดอื่นทดแทน (Supply Management Scheme : SMS) 4. มาตรการด้านตลาด โดยการจัดทำตลาดยางพาราร่วมกันระหว่างภูมิภาค (Regional Rubber Market : RRM) เพื่อซื้อขายยางพาราล่วงหน้า และ 5. การตั้งสภายางพาราแห่งอาเซียน (ASEAN Rubber Council : ARC) เพื่อเป็นเวทีให้ทั้ง 3 ประเทศมาพูดคุยหารือกันในประเด็นยางพารา ไม่ว่าจะเป็นการแปรรูปยางพารา การศึกษาค้นคว้า งานวิจัย หรือเวทีและเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เป็นต้น" นายกฤษฎา บุญราช กล่าว
ที่มา :
https://www.ryt9.com/s/prg/2958652
25/02/2019