สวนอุตสาหกรรมสำหรับผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ยางแห่งแรกจะตั้งขึ้นในรัฐเกรละ
ประเทศอินเดีย โดยในระหว่างการนำเสนองบประมาณของรัฐประจำปี 2562-2563 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นาย Thomas Isaac
ประกาศว่า รัฐบาลแห่งรัฐเกรละมีแผนจะจัดตั้งพื้นที่สำหรับผลิตภัณฑ์ยางแบบบูรณาการเพื่อช่วยผู้ผลิตยางและผู้ปลูกยาง
บรรษัทเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งรัฐเกรละ (KSIDC) ได้จัดเตรียมรายงานของโครงการในรายละเอียดเรียบร้อยแล้ว โดยรัฐบาลแห่งรัฐจะถือหุ้นร้อยละ
26 และที่เหลือถือโดยนักลงทุนเอกชน จะเป็นรูปแบบคล้ายกันกับ Cochin
International Airport Ltd. (CIAL) ซึ่งเป็นท่าอากาศยานแห่งแรกในประเทศที่มีเอกชนเป็นเจ้าของ
โดยจากข้อมูลของรัฐมนตรีระบุว่า บริษัทยางรถยนต์ชั้นนำซึ่งรัฐมนตรียังไม่เปิดเผยชื่อ
จะเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ในโครงการนี้
บรรษัทพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอุตสาหกรรมแห่งรัฐเกรละ
(KINFRA) ระบุว่า พื้นที่ 200 เอเคอร์ในเมือง
Kottayam คือพื้นที่สำหรับสวนอุตสาหกรรมที่เสนอนี้
รัฐเกรละผลิต NR
เป็นสัดส่วนร้อยละ 83 ของอินเดีย
และถูกมองว่าเป็นเมืองหลวงแห่งยางของประเทศ ปริมาณการปลูกยางคิดเป็นร้อยละ 74 ของพื้นที่รัฐเกรละ และมีผู้ปลูกกว่า 1 ล้านราย และมีประมาณ
5 แสนคนที่ทำงานเป็นคนกรีดยางในสวนยางต่าง ๆ โดยในจำนวนตัวเลขเหล่านี้
คนส่วนใหญ่ในภาคการผลิตยางเป็นเกษตรกรรายย่อยและเป็นคนชายขอบที่ครอบครองพื้นที่เล็กกว่า
1 เฮกแตร์
ที่ผ่านมา ราคายางมีความผันผวนและยังคงอยู่ในระดับต่ำ
ทำให้เกษตรกรจำเป็นต้องลดกิจกรรมการกรีดยาง
รัฐมนตรี Isaac
กล่าวในระหว่างการประชุมสมัชชานิติบัญญัติสำหรับงบประมาณแห่งรัฐเกรละประจำปี 2562
ว่า วิกฤตในภาคการผลิตยางสามารถแก้ไขได้ด้วยการมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มมูลค่าแก่อุตสาหกรรมยาง
ดังนั้น รัฐมนตรีจึงกล่าวว่า สวนอุตสาหกรรมยางที่เสนอนี้น่าจะสามารถผลิตผลิตภัณฑ์ยางได้ทุกอย่างตั้งแต่ลูกโป่งไปจนถึงยางรถยนต์
นอกจากนี้ งบประมาณใหม่ได้จัดสรรเงิน 500 รูปีให้เป็นเงินอุดหนุนแก่เกษตรกรยาง
อีกทั้งในสวนอุตสาหกรรมยังจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกในด้านกระบวนการผลิตโดยทั่วไปสำหรับเกษตรกรยางรายย่อยอีกด้วย
นอกจากการจัดสรรงบประมาณให้แก่สวนอุตสาหกรรมแล้ว
งบประมาณแห่งรัฐเกรละประจำปี 2562 ยังมีความสำคัญอย่างยิ่ง
ด้วยยังมีข้อเสนอของรัฐบาลที่จะสร้างรัฐเกรละขึ้นใหม่ภายหลังอุทกภัยที่รัฐเกรละครั้งใหญ่เมื่อปี
2561
ที่มา http://rubberjournalasia.com/keralas-rubber-industrial-park-to-aid-farmers-vs-rubber-price-crisis/