กลุ่มต่างๆ ถกเถียงกันเรื่องประโยชน์ของ NAFTA เมื่อการเจรจาใหม่ใกล้เข้ามา


กรุงวอชิงตัน  — ในขณะที่การเจรจาความตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (North American Free Trade Agreement หรือ NAFTA) ใหม่กำลังใกล้เข้ามา ผู้ที่มีผลประโยชน์ทางธุรกิจในเม็กซิโกและสหรัฐฯ  ซึ่งรวมอุตสาหกรรมยางล้อและชิ้นส่วนยานยนต์ กำลังถกเถียงกันเพื่อให้ความตกลง NAFTA มีความทันต่อเหตุการณ์ มีความเข้มแข็ง และไม่ถูกยกเลิก

กลุ่ม North American Strategy for Competitiveness (NASCO) ซึ่งเป็นกลุ่มที่สนับสนุน NAFTA เรียกร้องให้ปรับปรุงแต่ไม่ยกเลิกความตกลงดังกล่าว ซึ่งกลุ่มดังกล่าวประกอบด้วยสมาชิกกว่า 100 ราย เช่น บริษัท Bridgestone Americas กระทรวงขนส่งของรัฐมิชิแกน หอการค้าสหรัฐฯ เม็กซิโก และสมาคมผู้นำเข้าและส่งออกของเม็กซิโก

สำนักงานคณะผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (Office of the U.S. Trade Representative หรือ USTR) ขอให้มีการส่งความเห็นและข้อเรียกร้องกลับมาภายในวันที่ 12 มิถุนายน สำหรับการฟังความเห็นของสาธารณชน ที่จะจัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ของคณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศ (International Trade Commission) ในวันที่ 27 มิถุนายน เพื่อหารือเรื่องการเจรจาความตกลง NAFTA ใหม่ โดยให้มีความทันสมัยมากขึ้น

ความเห็นของ NASCO ที่ส่งไป USTR ระบุว่า เพื่อหลีกเลี่ยงการส่งออกและการจ้างงานที่ลดลง NAFTA ควรมีการแก้ไขแต่ไม่ควรยกเลิก เพราะ NAFTA มีขั้นตอนการแก้ไขอยู่แล้ว เพื่อสามารถแก้ไขได้เมื่อจำเป็น

NAFTA ได้มีการเจรจามากว่า 25 ปีแล้ว และเป็นจุดศูนย์กลางของการขัดแย้งอย่างรุนแรง ความตกลงสามฝ่ายระหว่างเม็กซิโก แคนาดา และสหรัฐฯ ได้รับเครดิตว่าเป็นความตกลงที่อำนวยความสะดวกให้กับการไหลของธุรกิจและสินค้าอย่างเสรีระหว่างประเทศทั้งสาม แต่ขณะเดียวกันก็ถูกตำหนิว่าเป็นความตกลงที่ฆ่าแรงงานในภาคการผลิตในประเทศทั้งสามเช่นกัน

แถลงการณ์เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ของ USTR ระบุว่า ในขณะที่เศรษฐกิจและธุรกิจชองสหรัฐฯ เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ในช่วงเวลาดังกล่าว แต่ NAFTA ไม่เปลี่ยน

Albert C. Zapanta ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของหอการค้าสหรัฐฯ - เม็กซิโก ส่งความเห็นไปยัง USTR ว่า ความสำเร็จของ NAFTA และผลที่มีต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ไม่สามารถปฏิเสธได้ ทั้งนี้ การค้าระหว่างสามประเทศพุ่งสูง 245% ตั้งแต่ปี 1993 โดยสหรัฐฯ รวยขึ้น 127 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ทุกปี จากการค้า พิเศษที่เติบโต ที่เป็นผลของความร่วมมือของหุ้นส่วน NAFTA

ในทางตรงกันข้าม Leo W. Gerard ประธานสหภาพแรงงานคนงานเหล็กกล้า (United Steelworkers International) เสนอต่อ           USTR ว่า NAFTA แทบจะไม่ได้ทำอะไรเลย เพื่อปกป้องการจ้างงานในภาคการผลิต รวมทั้งภาคที่สนับสนุนภาคการผลิต เช่น การดูแลสุขภาพ และการให้บริการ ซึ่งได้ทำลาย เมืองที่มีที่ตั้งของโรงงานเป็นจำนวนมาก’ ('factory towns') ซึ่งมีผลกระทบต่อชีวิตของคนงานในภาคการผลิตในอดีตและปัจจุบัน

คนงานในแคนาดาและเม็กซิโกก็ได้รับผลกระทบเช่นกันภายใต้ NAFTA โดยความตกลงดังกล่าวกำหนดให้บริษัทต่างๆ  ย้ายฐานการผลิตหรือเปลี่ยนการจ้างผลิตได้ โดยคนงานไม่มีส่วนในงานที่ลงแรงไป

แถลงการณ์ ของ USTR ทำให้มีผู้ที่ประสงค์จะมาให้ข้อมูลหลายร้อยราย และมีผู้ส่งข้อเสนอเข้ามาเกือบ 12,500 ราย โดยตัวอย่างองค์กรที่ขอเข้ามาให้ข้อมูล ได้แก่ สมาคม Auto Care Association (ACA) และสมาคม Motor & Equipment Manufacturers Association (MEMA) ซึ่งสมาชิกได้ประโยชน์อย่างมากจาก NAFTA

Aaron Lowe รองประธานอาวุโส รับผิดชอบกิจการกฎระเบียบและภาครัฐ ของ ACA ให้ความเห็นต่อ USTR ว่า การยกเลิกภาษี การปกป้องการลงทุน และการเปิดเสรีการบริการ ของ NAFTA เป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่การบูรณาการอุปทาน/ห่วงโซ่คุณค่าในภูมิภาค

Lowe กล่าวว่า หากจะพูดอย่างง่ายๆ NAFTA ได้กำหนดกฎเกณฑ์ที่ทำให้สามารถคาดการณ์ได้ สำหรับผู้ผลิต ผู้ค้าปลีก ผู้จัดจำหน่าย และผู้ให้บริการ

ในความเห็นของ MEMA อุตสาหกรรมยานยนต์ได้ใช้ประโยชน์จาก NAFTA ในการสร้างห่วงโซ่อุปทานร่วมกันทั่วอเมริกาเหนือ

MEMA กล่าวว่า NAFTA ยังได้ผลักดันนวัตกรรมในอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งรวมรถที่ไม่มีคนขับ ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นเรื่องของการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อช่วยชีวิตและความมีประสิทธิภาพของรถยนต์เท่านั้น แต่งานที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดังกล่าวยังกระตุ้นให้เกิดการจ้างงานในสหรัฐฯ ซึ่งก็จะส่งเสริมการส่งออก และเป็นหลักประกันว่า สหรัฐฯ จะยังคงความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมของโลก

ข้อเสนอหลายประเด็นสำหรับการเจรจาความตกลง NAFTA ใหม่ เน้นพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และเทคโนโลยี เช่น หอการค้าสหรัฐฯ เมกซิโก เสนอให้มีการสร้างพรมแดนอัจฉริยะที่จะใช้เทคโนโลยีในการสร้างความมั่นคงที่จำเป็นและการปรับปรุงประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าให้ราบรื่นและตรงตามเวลา

NASCO ได้ยื่นรายการข้อเสนอยาวเหยียด ได้แก่:

การจัดตั้ง "ธนาคารโครงสร้างพื้นฐาน" ("Infrastructure Bank") ระหว่างภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม โดยใช้ตลาดนำ เพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นตามแนวชายแดน

การจัดตั้งความตกลงด้านพลังงานของอเมริกาเหนือ

การคงโครงการ "นอกเหนือจากพรมแดน" ("Beyond the Border") สำหรับความร่วมมือด้านความมั่นคงและการอำนวยความสะดวกด้านการค้าไว้ และ

การเพิ่มการฝึกอบรมและการรับรองแรงงานวิชาชีพในอเมริกาเหนือ รวมทั้งการเริ่มใช้มาตรฐานร่วมกันสำหรับการฝีกอบรมและการรับรองวิชาชีพด้านการผลิตและโลจิสติกส์ในอเมริกาเหนือ

 

สำหรับข้อเสนอของ MEMA ประกอบด้วย:

การสร้างสนามแข่งที่เท่ากันสำหรับทุกฝ่าย ซึ่งรวมการยกเลิกมาตรการที่ไม่ใช่ภาษี

การบังคับให้มีการปกป้องสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา

การดำเนินการเพื่อให้มาตรฐานความปลอดภัยของยานยนต์ของสหรัฐฯ (U.S. motor vehicle safety standards) เป็นที่ยอมรับในประเทศภาคีสมาชิก และ

การเรียกร้องให้การนำเข้าชิ้นส่วนอะไหล่ทั้งหมด ซึ่งรวมสินค้าที่นำมาผลิตใหม่ ให้เป็นเสมือนสินค้าใหม่

 

ACA ระบุว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์และการลดขั้นตอนพิธีการทางศุลกาการเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ NAFTA มีความเป็นสมัยใหม่

Lowe กล่าวว่า ในขณะที่คนเกือบ 80% ซื้อของออนไลน์ เทียบกับเพียง 22% ในปี 2000 หนึ่งในจุดอ่อนที่ร้ายแรงที่สุดของ NAFTA คือ การขาดมาตราที่ปกป้องพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์และที่ปกป้องการค้าข้ามพรมแดน แต่ในขณะเดียวกัน การอำนวยความสะดวกทางการค้าก็ก้าวหน้าไปอย่างมาก ตั้งแต่มีความตกลง NAFTA

เขากล่าวว่า พิธีการทางศุลกากรของ NAFTA ควรสอดคล้องกับความตกลงว่าด้วยการอำนวยความสะดวกทางการค้าขององค์การการค้าโลก (WTO Trade Facilitation Agreement) และสหรัฐฯ ควรหาวิธีที่จะลดเวลาการรอคอยและอุปสรรคที่ชายแดน ที่มีผลกระทบต่อการส่งออกของสหรัฐฯ ไปแคนาดาและเม็กซิโก

Continental Automotive Systems บริษัทในเครือของบริษัท Continental Tire the Americas L.L.C. เพียงแต่กล่าวว่า สนับสนุนการค้าเสรี แต่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า การเจรจาใหม่ของ NAFTA จะเป็นเช่นไร

ที่มา: http://www.tirebusiness.com/article/20170712/NEWS/170719979/groups-debate-merits-of-nafta-as-renegotiation-nears


















14/07/2017