เมืองซาคราเมนโต
รัฐแคลิฟอร์เนีย —
ร่างกฎหมายที่กำลังเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภารัฐแคลิฟอร์เนียจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมยางล้อใช้แล้วจากราคาปัจจุบัน
1.75 เหรียญสหรัฐฯ ต่อเส้น เพิ่มอีก 1.50 เหรียญสหรัฐฯ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในระบบท่อระบายน้ำฝนของเทศบาล
ร่างกฎหมายดังกล่าว
(AB
1180) ที่ออกมาเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์
ศกนี้ จะกำหนดให้นำเงินค่าธรรมเนียม 1.50 เหรียญฯ
ที่เพิ่มนี้ เข้ากองทุนเพื่อจัดสรรเงินช่วยเหลือสำหรับโครงการท่อระบายน้ำฝน เพื่อป้องกันหรือบรรเทาผลกระทบจากมลภาวะของสังกะสีที่เกิดจากยางล้อ
ค่าธรรมเนียมดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้จนถึงวันที่
1
มกราคม 2024 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากยางล้อ
นอกเสียจากว่าจะมีร่างกฎหมายอื่นมาลบล้างหรือขยายระยะเวลา
Terry Leveille ประธานบริษัท
TL & Associates ตั้งอยู่ที่เมืองซาคราเมนโต
และผู้แทนด้านกฎหมายของสมาคมผู้ค้ายางล้อของรัฐแคลิฟอร์เนีย (California
Tire Dealers Association) ซึ่งคัดค้านร่างกฎหมาย AB 1180 นี้ เปิดเผยว่า เดิม ค่าธรรมเนียมยางล้อเก็บที่ 1 เหรียญฯ
ต่อยางใหม่ทุกเส้นที่จำหน่ายในรัฐแคลิฟอร์เนีย ต่อมา ในปี 2004 กฎหมายกำหนดให้เพิ่มค่าธรรมเนียมอีก 75 เซ็นต์
เพื่อเป็นเงินทุนสำหรับคณะกรรมการทรัพยากรอากาศของรัฐแคลิฟอร์เนีย (California
Air Resources Board หรือ CARB) โดยนำค่าธรรมเนียม
75 เซ็นต์ที่เพิ่ม เข้ากองทุน “Carl Moyer Fund” เพื่อทดแทนรถโรงเรียนและรถแทร็กเตอร์เก่าที่ใช้น้ำมันดีเซลที่ก่อมลภาวะสูง
ด้วยรถที่ใช้น้ำมันดีเซลที่เผาไหม้สะอาดกว่า
นาย Leveille กล่าวว่า รัฐแคลิฟอร์เนียควรเก็บภาษีน้ำมันดีเซลเพิ่ม แต่ล็อบบี้ยิสต์ของบริษัทน้ำมันมีอิทธิพลมากกว่าสมาคมผู้ค้ายางล้อของรัฐแคลิฟอร์เนียหรือสมาคมผู้ผลิตยาง
ซึ่งถูกกันออกจากการเจรจา โครงการ Carl Moyer มีประโยชน์ต่อสาธารณชน
แต่เป็นสิ่งที่ผิดในขณะนั้นและจนถึงขณะนี้ ที่จะใช้เงินจากค่าธรรมเนียมยางล้อ ความแตกต่างระหว่างร่างกฎหมาย
AB 1180 และร่างกฎหมาย CARB คือ
ร่างกฎหมาย AB 1180 ต้องได้คะแนนเสียงสองในสามของฝ่ายนิติบัญญัติ
ซึ่งหมายความว่า เงิน 1.50 เหรียญฯ ที่เพิ่มนี้ จะต้องถูกจัดประเภทเป็นภาษีมากกว่าค่าธรรมเนียม
ที่มา: http://www.tirebusiness.com/article/20170301/NEWS/170229949/california-bill-would-double-used-tire-fee วันที่ 1 มีนาคม 2017