ทันหุ้น-วงการชี้ TRUBB เนื้อหอมทุนใหญ่จีนดอดร่วมหุ้น หวังฮุบฐานวัตถุดิบยางพารา เร่งผลิตล้อรถยนต์ เพื่อส่งออกประเทศสหรัฐอเมริกาให้มากที่สุด ก่อนปี 60 สหรัฐอเมริกาขึ้นกำแพงภาษีนำเข้า แถมเล็งเห็นโอกาสในปี 60 รัฐบาลไทยเข็นโปรเจ๊กต์นำยางพาราล็อตใหญ่ไปผสมแอสฟัลต์เพื่อทำถนนในทุกภูมิภาค และสนับสนุนธุรกิจกลุ่มผลิตภัณฑ์ยางพาราเต็มสูบ
แหล่งข่าววงการอุตสหกรรม เปิดเผยกับ “หนังสือพิมพ์รายวันทันหุ้น”ว่า ปัจจุบันมีกลุ่มทุนรายใหญ่จากประเทศจีน ผู้ประกอบธุรกิจนำวัตถุดิบหลักจากยางพาราไปผลิตสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับ อุตสาหกรรมยานยนต์ และกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ให้ความสนใจเตรียมเข้าเจรจาขอเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ “บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์คอร์ปอร์เรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TRUBB”
โดยเบื้องต้นกลุ่มทุนให้ความสนใจเข้าร่วมทุนกับบริษัทย่อยด้วย อย่าง “บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด” ซึ่ง TRUBB ถือหุ้นในสัดส่วน 99.99% และ“บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด” ยังมีบริษัทย่อยที่ถือหุ้นในสัดส่วน 55% ที่จดทะเบียนในประเทศจีน คือ “บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด เซี่ยงไฮ้” เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศจีน ซึ่งดำเนินธุรกิจซื้อ-ขายผลิตภัณฑ์ยางพาราทุกชนิดในประเทศจีน ผลิตภัณฑ์หลักที่จำหน่าย คือ ยางแท่ง (STR20) และน้ำยางข้น
ร่วมทุนลุยธุรกิจยานยนต์
ทั้งนี้การที่กลุ่มทุนจีนต้องการเป็นพันธมิตรกับ TRUBBนั้น เพราะต้องการเป็นเจ้าของวัตถุดิบยางพารา เนื่องจากปัจจุบันในประเทศจีนยางพาราเริ่มเข้าสู่ภาวะขาดแคลน เพราะขณะนี้กลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศจีนต่างเร่งผลิตยางล้อรถยนต์ เนื่องจากช่วงปี 2560 ประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของประเทศจีนจะมีการปรับเพิ่มภาษีนำเข้า และเพื่อไม่ให้รับผลกระทบทางด้านภาษี กลุ่มผู้ประกอบการในประเทศจีนจึงต้องเร่งผลิตยางล้อรถยนต์ให้ได้มากที่สุดอย่างไรก็ดีปัจจุบัน TRUBB อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตร ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุป
โดยไม่เพียงเท่านั้น กลุ่มทุนจีนยังสนใจเข้าร่วมทุนกับ TRUBB เพราะเล็งเห็นโอกาสการลงทุนในประเทศไทย จากกรณีที่กระทรวงคมนาคมเตรียมเสนองบประมาณ ไปยังหน่วยงานกรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท เพื่อซื้อยางพาราล็อตใหญ่ไปผสมแอสฟัลต์เพื่อทำถนน และการที่ภาครัฐบาลไทยให้การสนับสนุนสินค้าที่ผลิตจากยางพารา ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ทำให้ปริมาณคำสั่งซื้อ(ออเดอร์) ยางพาราในประเทศเพิ่มขึ้นในปี 2560
สำหรับราคายางพาราคาดว่าได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และจะเริ่มปรับตัวในลักษณะขาขึ้นในปี 2560 ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความต้องการใช้ยางพาราเพิ่มขึ้นในหลายประเทศสวนทางกับผลผลิตที่ลดลง
โชว์กลยุทธ์ขยายตลาด
นายวรเทพ วงศาสุทธิกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์คอร์ปอร์เรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TRUBB กล่าวกับ “หนังสือพิมพ์รายวันทันหุ้น”ว่าก่อนหน้านี้ว่า ปัจจุบันบริษัทเปิดกว้างเจรจาพันธมิตรร่วมทุนเพื่อต่อยอดธุรกิจ ซึ่งคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในระยะถัดไป
ส่วนทิศทางธุรกิจช่วงที่เหลือของปี 2559 บริษัทวางลยุทธ์เดินหน้าธุรกิจทุกภาคส่วนทั้งฝ่ายซื้อ ฝ่ายผลิต และฝ่ายขาย รวมถึงเพิ่มช่องทางการตลาด โดยจะขยายตลาดไปตลาดอื่นนอกเหนือจากจีน เช่น กลุ่มประเทศอเมริกาใต้, กลุ่มประเทศยุโรปและกลุ่มประเทศมุสลิม ซึ่งเป็นตลาดที่มีราคาสูงกว่าตลาดจีน เป็นต้น
โดยปัจจุบันบริษัทมีรายได้หลักมาจาก “กลุ่มน้ำยางข้น” คิดเป็นกว่า 70% ของรายได้รวม โดยธุรกิจนี้ บริษัทมีความได้เปรียบด้านการแข่งขัน เพราะมีโรงงานกระจายอยู่ใน 2 ภาค คือ ภาคใต้และภาคตะวันออก ซึ่งมีฤดูกาลของยางผลัดใบต่างกันจึงมีปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบน้อยกว่าผู้ผลิตที่มีโรงงานอยู่ในภาคเดียว ทำให้สามารถควบคุมต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นผู้นำในการตั้งราคาขาย
(ที่มา: https://www.thunhoon.com ประจำวันที่ 30 พฤศจิกายน 2559)