CWT เตรียมเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าชีวมวลโคกเจริญ จ.สระแก้ว มูลค่า 959 ล้านบาท คาด COD ภายใน 16 ต.ค.60
บมจ.ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป (CWT) จะลงทุน 959 ล้านบาท ในโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล “โคกเจริญ” ใน จ.สระแก้ว ขนาดกำลังการผลิตกว่า 9 เมกะวัตต์ มีปริมาณขายพลังงานไฟฟ้าสูงสุด 8 เมกะวัตต์ โดยจะเริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ภายใน 16 ต.ค.60
CWT แจ้งว่า ตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อ 15 ส.ค.59 อนุมัติให้บริษัท ชัยวัฒนา กรีน เพาเวอร์ จำกัด (CWTG) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เข้าลงทุนซื้อหุ้น บริษัท โคกเจริญ กรีนเอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (KE) จำนวน 100% มูลค่ารวม 70 ล้านบาท ต่อมาที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ (14 พ.ย.) อนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติให้บริษัทลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลของโคกเจริญฯ มีมูลค่าลงทุนประมาณ 959 ล้านบาท
โครงการดังกล่าวจะผลิตกระแสไฟฟ้าจากเศษไม้ และไม้สับขนาดกำลังการผลิตกว่า 9 เมกะวัตต์ อายุโครงการ 15 ปี 4 เดือน นับจากวัน COD ตามเพิ่มเติมสัญญาซื้อขายไฟฟ้า VSPP-PEA-042/2558 จากแบบ Adder เป็น Feed-in-Tariff (TiF) กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เมื่อวันที่ 17 ต.ค.59 โดยไฟฟ้าที่โครงการผลิตได้จะเข้าเครือข่ายสายส่งของ กฟภ.ในปริมาณพลังงานไฟฟ้าสูงสุด 8 เมกะวัตต์ ที่ระดับแรงดัน 22,000 โวลต์ โดยมีจุดรับซื้อไฟฟ้าอยู่ที่จุดติดตั้งที่ ต.ศาลาลำดวน อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว โดยจะเริ่มขายไฟฟ้าให้ กฟภ. ภายในวันที่ 16 ต.ค.60
ทั้งนี้ การดำเนินลงทุนดังกล่าวจะอยู่ภายในปี 60 หลังจากที่บริษัทได้รับใบอนุญาตต่างๆ โดยคาดว่าใบอนุญาตก่อสร้าง อ.1 คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน ก.พ.60, รายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน ก.พ.60 และใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (ร.ง.4) คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนมี.ค.60 ซึ่งหลังจากได้รับใบอนุญาตแล้ว บริษัทจะเข้าลงทุนเพื่อก่อสร้างโรงไฟฟ้า คาดว่าจะใช้ระยะเวลาก่อสร้างราว 14 เดือนหลังจากได้ลงนามในสัญญาว่าจ้างการก่อสร้างโรงไฟฟ้า และส่งมอบพื้นที่สำหรับทำการก่อสร้างแล้ว
สำหรับแหล่งเงินลงทุนจะมาจากการกู้ยืมสถาบันการเงินราว 70% หรือ 709 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นราว 30% หรือ 249.5 ล้านบาท ซึ่งในส่วนนี้จะมาจากการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับนักลงทุนโดยเฉพาะเจาะจง (PP) บางส่วน และเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทยังอนุมัติให้ขยายเวลาการรับชำระเงินค่าหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ PP โดยจัดสรร และกำหนดราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้ PP ครั้งที่ 1 จำนวน 202.2 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 4 บาท ให้กับนักลงทุน 5 ราย ที่จะชำระเงินเพิ่มทุนภายใน ก.ย.59 และกองทุน 1 ราย จะชำระเงินภายใน ต.ค.59 นั้น ภายในเดือน ต.ค.59 มีนักลงทุน จำนวน 4 ราย ชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนแล้ว 22.2 ล้านหุ้น คงเหลือจำนวนหุ้นที่ยังไม่ได้รับชำระเงิน จำนวน 180 ล้านหุ้น ซึ่งนักลงทุนดังกล่าวต้องการเวลาเพิ่มเติมในการจัดเตรียมเงินค่าหุ้นเพิ่มทุนให้บริษัท และจะชำระภายในเดือน ธ.ค.59
ดังนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการจึงมีมติให้ขยายระยะเวลาชำระเงินค่าหุ้นเพิ่มทุน จำนวน 180 ล้านหุ้น ออกไปจนถึงวันที่ 31 ธ.ค.59
(ที่มา: ผู้จัดการออนไลน์ ประจำวันที่ 16 พฤศจิกายน 2559)