รายงานตลาดจากสำนักวิจัย TechSci Research ในหัวข้อ “การคาดการณ์และโอกาสตลาดยางล้อในทวีปยุโรป ปี 2564” ระบุว่า ภายใน 5 ปีข้างหน้าตลาดยางล้อทวีปยุโรปคาดว่าจะมีปัจจัยขับเคลื่อนจากจำนวนโรงงานผลิตยางล้อที่เพิ่มขึ้น และการมีกลุ่มธุรกิจยานยนต์และยอดขายยานพาหนะเพิ่มขึ้น และคาดว่าตลาดยางล้อทวีปยุโรปจะมีมูลค่าสูงถึง 49,000 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2564
ส่วนปัจจัยขับเคลื่อนตลาดด้านอื่นๆ ได้แก่ เสถียรภาพของราคาน้ำมันดิบ อัตราการครอบครองรถยนต์เพิ่มมากขึ้น และนโยบายของภาครัฐที่มีส่วนช่วยหนุนธุรกิจ นอกจากนี้ ทวีปยุโรปยังเป็นศูนย์กลางความก้าวหน้าของโลกในทุกๆ ด้าน โดยในเรื่องเทคโนโลยียางล้อนั้นพบว่ามีโรงงานผลิตยางล้อมากกว่า 90 แห่ง มีศูนย์วิจัยและพัฒนาถึง 16 แห่ง และมีผู้ผลิตยางล้อชั้นนำในทวีปยุโรปถึง 12 ราย
ในช่วงระหว่างปี 2551-2555 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ต่างประสบปัญหาผลกระทบจากวิกฤตหนี้ในภูมิภาค และต้องเผชิญกับปัญหาสภาวะเศรษฐกิจและการเงินอ่อนแอเป็นผลพวงอันเนื่องมาจากวิกฤตการณ์ดังกล่าว
ในปี 2556 ผลสืบเนื่องจากวิกฤตหนี้ในยุโรปยังคงมีอยู่ และส่งผลกระทบต่อการเติบโตของภาคธุรกิจยานยนต์ ทำให้ในช่วงระหว่างปี 2554-2558 ปริมาณการผลิตยานยนต์ของสหภาพยุโรปเติบโตเพียงร้อยละ 0.16
แต่อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมยานยนต์และยางล้อในทวีปยุโรปคาดว่าจะยังคงอยู่รอดได้ในอีก 5 ปีข้างหน้าเนื่องจากมีแผนการช่วยเหลือด้านการเงินหลายอย่างทั้งจากสหภาพยุโรปเองและจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวได้
กลุ่มธุกิจรถยนต์นั่งส่วนบุคคลก็คาดว่าจะยังคงครองตลาดยางล้อทวีปยุโรปในช่วงระยะเวลาที่คาดการณ์ เนื่องจากทั้งปัจจัยยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น ธุรกิจกลุ่มรถยนต์นั่งส่วนบุคคลขยายตัวดีขึ้น และผู้บริโภคมีกำลังซื้อมากขึ้น โดยปริมาณความต้องการยางล้อชนิดเปลี่ยนทดแทนก็คาดว่าจะมีการเติบโตพอๆกับยางล้อที่ติดไปกับรถในช่วง 5 ปีข้างหน้า
สำหรับบริษัทผลิตยางล้อชั้นนำในตลาดยางล้อยุโรป ได้แก่ Michelin, Goodyear, Continental, Bridgestone และ Pirelli
(ที่มา: http://rubberjournalasia.com, 21/09/2016)