นายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยว่า กยท.เตรียมเสนอที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานอนุมัติปลดล็อกราคาขายยางในสต๊อกรัฐบาล จากราคาขายต้องไม่ต่ำกว่า 60 บาท/กิโลกรัม (กก.) ให้เป็นไปตามกลไกตลาดและคิดค่าเสื่อมตามคุณภาพยางพารา หลังจากนั้นจึงจะเสนอเรื่องดังกล่าวให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ ก่อนที่จะนำไปสู่กระบวนระบายยางในสต๊อกรัฐบาลต่อไป ซึ่งเป็นยางในสต๊อกจาก 2 ส่วน คือยางในสมัยโครงการแทรกแซงราคายางพาราของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จำนวน 1.7 แสนตัน และในสมัยรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในโครงการมูลภัณฑ์กันชนจำนวน 1.4 แสนตัน มีภาระค่าเช่าโกดังเดือนละ 30 ล้านบาท
นายธีธัชกล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสต๊อกโดยผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทั้ง 11 เขต เบื้องต้นยางคุณภาพดีน่าจะเกิน 50% ของปริมาณยางทั้งหมด น่าจะขายได้ใกล้เคียงกับราคาตลาด ส่วนยางตกชั้น ซึ่งมีคุณภาพต่ำลงมาจะมีราคาลดลงชั้นละ 1 บาท/กก. อาทิ ยางแผ่นรมควัน ชั้น 4 ราคาลดลงประมาณ 1 บาท/กก. และยางแผ่นรมควันชั้น 5 ราคาลดลงประมาณ 2 บาท/กก.
นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ รองปลัดกระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่า ปริมาณยางพาราที่มีการตรวจสอบคุณภาพครั้งล่าสุด มีการเสื่อมคุณภาพลงมาก ทั้ง 64 โกดัง โดยขณะนี้ผู้ตรวจราชการกระทรวงได้มีข้อสังเกต และทำหนังสือเสนอไปยัง พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ว่ายางทั้งหมด 3 แสนกว่าตัน ไม่ควรจะเก็บอีกต่อไป
(ที่มา: มติชนออนไลน์ ประจำวันที่ 26 สิงหาคม 2559)