ตลาดยางล้อซาอุดิอาระเบียจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 10.8 ต่อปีไปจนถึงปี 2569


    ตามรายงานตลาดฉบับใหม่โดยสำนักวิจัย Persistence Market Research ในหัวข้อ “การศึกษาตลาดยางล้อในประเทศซาอุดิอาระเบีย: การวิเคราะห์และคาดการณ์อุตสาหกรรมในช่วงระหว่างปี 2559-2569” มีการประมาณการว่าตลาดยางล้อในประเทศซาอุดิอาระเบียจะมีมูลค่าสูงถึง 2,120 ล้านเหรียญสหรัฐในสิ้นปีนี้ และคาดการณ์ว่าจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย(CAGR) ร้อยละ 10.8 ต่อปี ในช่วงระหว่างปี 2559-2569 โดยแนวโน้มของตลาดเช่นนี้คาดว่ามีสาเหตุมาจากข้อกำหนดจากภาครัฐและปริมาณความต้องการรถยนต์นั่งส่วนบุคคลภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น 
    ตามรายงานฯ ระบุว่า จำนวนผู้คนที่เลือกใช้รถยนต์ ซึ่งรวมถึงรถยนต์นั่งส่วนบุคคลกำลังเพิ่มขึ้นเนื่องจากอุณหภูมิที่สูงเป็นประวัติการณ์ในรอบปี ส่วนปัจจัยเสริมด้านอื่นๆ คือ การที่ไม่เก็บภาษีสินค้าฟุ่มเฟือยหรือภาษีมูลค่าเพิ่ม
    ตลาดในประเทศแบ่งผลิตภัณฑ์ยางล้อออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ ยางล้อชนิดสูบลมและยางล้อชนิดไม่ต้องสูบลม ซึ่งความต้องการผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 กลุ่มในท้องตลาดคาดว่าถูกขับเคลื่อนจากความพยายามในด้านการวิจัยและพัฒนาของผู้ผลิตที่มีมากขึ้น และคาดว่าตลาดยังได้รับอิทธิพลจากการใช้อินเทอร์เน็ตและมีการทำธุรกรรมซื้อขายสินค้าผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น
    หากพิจารณาในแง่ของประเภทยานพาหนะ ตลาดในซาอุดิอาระเบียจำแนกออกเป็นยานพาหนะที่ใช้ 2 ล้อ ยานพาหนะที่ใช้ 4 ล้อ อากาศยาน และยานพาหนะประเภทอื่นๆ โดยยานพาหนะประเภท 4 ล้อสามารถแบ่งออกเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถเพื่อการพาณิชย์ และรถประเภทอื่นๆ ซึ่งคาดว่าจะเป็นผู้นำตลาดได้ตลอดช่วงระยะเวลาที่คาดการณ์ โดยภาคธุรกิจรถยนต์นั่งส่วนบุคคลจะเป็นกลุ่มที่ครองตลาดและคาดว่าจะมีแนวโน้มเช่นนี้ต่อไปและมีมูลค่าตลาดมากกว่า 1,430 ล้านเหรียญสหรัฐภายในสิ้นปี 2559 
    ตลาดในซาอุดิอาระเบียตามรายงานยังจำแนกออกเป็น 5 ภาค ได้แก่ ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก ภาคกลาง ภาคใต้ และภาคเหนือ โดยคาดว่าความต้องการยางล้อสำหรับรถ 4 ล้อ ในภาคตะวันตกและภาคกลางจะเติบโตเร็วที่สุด โดยเมือง Riyadh และเมือง Mecca คาดว่าจะถูกพัฒนาให้เป็นศูนย์การการค้าปลีกของประเทศ
    บริษัทที่มีบทบาทอย่างมากสำหรับตลาดยางล้อของซาอุดิอาระเบีย ได้แก่ บริษัท Pirelli & C Spa, Yokohama Rubber Company Ltd., Apollo Tyres Ltd., Toyo Tire & Rubber Company Ltd., The Bridgestone Group, Hankook Tire Company, Continental AG, Cooper tire & Rubber Company, Goodyear Tire and Rubber Company และ Michelin Group.
    ทั้งนี้ บริษัทผู้ผลิตระดับโลกที่ครองตลาด ได้แก่ Bridgestone Group, Michelin Group, Pirelli & C Spa และ Continental AG คาดว่าจะยังคงครองตลาดยางล้อในประเทศต่อไป ส่วนบริษัท Apollo Tyres Ltd., Goodyear Tire & Rubber Company และ Yokohama Rubber Company Ltd. คาดว่าจะยังต้องแข่งขันอย่างหนักกับผู้ผลิตระดับโลกโดยอาศัยปัจจัยด้านต้นทุนเป็นตัวแข่งขันต่อไป

    (ที่มา: http://rubberjournalasia.com, 23/08/2016) 


















25/08/2016