อุตสาหกรรมถุงมือยางที่ใช้ทางการแพทย์ของจีนยังคงมีศักยภาพสูงสำหรับนักลงทุนมาเลเซีย


    การร่วมทุนระหว่างนักลงทุนมาเลเซียและนักลงทุนจากจีนในอุตสาหกรรมถุงมือยางที่ใช้ทางการแพทย์ในประเทศจีนนั้นนับว่ามีศักยภาพสูงมาก เนื่องจากจีนเป็นประเทศที่มีประชากรเป็นจำนวนมาก ในขณะที่การใช้ถุงมือยางในอุตสาหกรรมการดูแลสุขอนามัยยังอยู่ในระดับต่ำ
    ในปี 2558 จีนมีการนำเข้าถุงมือยางที่ใช้ทางการแพทย์จากมาเลเซียมากถึงร้อยละ 71 หรือคิดเป็นมูลค่า 96 ล้านเหรียญสหรัฐ และความต้องการถุงมือยางประเภทนี้ก็คาดว่าจะยังคงเพิ่มขึ้นอีก 
    Datuk Seri Mah Siew Keong รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมการเพาะปลูกและสินค้าโภคภัณฑ์ของมาเลเซียกล่าวว่า การเพิ่มการใช้ถุงมือยางในจีนยังมีโอกาสอีกสูงมาก เนื่องจากปริมาณการใช้ถุงมือยางต่อหัวของประชากรจีนในปัจจุบันอยู่ที่ 3 คู่ต่อปี ในขณะที่อัตราการใช้ถุงมือยางโดยเฉลี่ยของโลกอยู่ที่ 25 คู่ต่อปี 
    “หากจีนเพิ่มการใช้งานถุงมือยางเป็น 8 หรือ 10 คู่ต่อปี จะมีความเป็นไปได้ที่ถุงมือยางจากมาเลเซียจะสามารถทำตลาดในจีนได้อย่างมหาศาล”
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมฯ กล่าวว่า มาเลเซียเป็นประเทศส่งออกถุงมือยางที่ใช้ทางการแพทย์ไปยังตลาดจีนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งระบบการดูแลสุขอนามัยของจีนมีความเชื่อมั่นในคุณภาพของถุงมือยางจากมาเลเซีย นั่นคือเหตุผลว่าทำไมมาเลเซียจึงเป็นผู้ส่งออกถุงมือยางที่ใช้ทางการแพทย์รายใหญ่ที่สุดของจีน ซึ่งผู้ผลิตถุงมือยางของมาเลเซียกว่า 20 รายรวมทั้งบริษัท Top Glove ก็ส่งออกถุงมือยางไปยังตลาดจีน
    อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ผลิตจากยาง เช่น ถุงมือยาง ถุงยางอนามัย และสายสวนปัสสาวะที่ผลิตในมาเลเซียได้ผลิตตามข้อกำหนดมาตรฐานทั้งระดับประเทศและระดับนานาชาติ และจำหน่ายในตลาดจีนมาเป็นระยะเวลาหลายปีในระดับราคาที่สามารถแข่งขันได้
    ส่วนค่าใช้จ่ายด้านสุขอนามัยของจีนนั้นมีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักในช่วงระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมาโดยมีตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ร้อยละ 5.6 “ตามจำนวนประชากรและรูปแบบของการบริโภคในจีน จึงมีแนวโน้มว่าตลาดด้านการดูแลสุขอนามัยของจีนจะเติบโตและผู้ผลิตในมาเลเซียควรเป็นคู่ค้าที่มีความตื่นตัวในการพัฒนาตลาดในจีน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมฯ กล่าว
    ค่าใช้จ่ายด้านการดูแลสุขอนามัยในจีนคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 640,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (2.6 ล้านล้านริงกิต) เป็น 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ (4.1 ล้านล้านริงกิต) ภายในปี 2563  
    ในด้านสภาพแวดล้อมด้านสุขอนามัย ถุงมือที่ใช้ทางการแพทย์ที่เหมาะสมนับว่าเป็นอุปกรณ์ช่วยชีวิตที่สามารถปกป้องการแพร่กระจายของเชื้อโรค ตั้งแต่โรคเอดส์ ไวรัสตับอักเสบบี ไวรัส H1N1 และล่าสุดคือ ไวรัส Zika ได้  
“หลาย ๆ หน่วยงานต่างก็มีมาตรการป้องกันเชื้อโรคเหล่านี้ ดังนั้น คาดว่าการใช้ถุงมือยางจะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต”  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมฯ กล่าว 
    การส่งออกถุงมือยางไปยังจีนนั้นเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 15.2 ต่อปี และในปี 2558 จีนนับเป็นตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์ยางรายใหญ่เป็นลำดับที่ 4 ของมาเลเซีย จากเดิมอยู่ในลำดับที่ 12 เมื่อ 10 ปีที่แล้ว

    (ที่มา: http://rubberjournalasia.com, 15/08/2016) 


















18/08/2016