ตลาดเฟอร์นิเจอร์ไทยยังสดใส ครึ่งปีแรก “ZEDERE” ทำยอดขายโต 37%


    ผู้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์หนังแบรนด์ “ZEDERE” โอ่ยอดขายครึ่งปีแรกรวม 73 ล้านบาท เตรียมแผนเปิดโชว์รูมแห่งที่ 3 ช่วงปลายปี พร้อมจับมือพันธมิตรลุยตลาดหัวเมืองใหญ่ ประเดิมนำร่องที่อุบลฯ
    นายนัยธาดา นันทน์วิธู กรรมการบริหาร บริษัท ทีมเฟอร์น (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์หนังภายใต้แบรนด์ “ZEDERE” (เซเดอเร) เปิดเผยว่า ภาพรวมของอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ไทยยังคงมีแนวโน้มสดใส ดังจะเห็นได้จากภาวะการส่งออกในช่วงวันที่ 1 ม.ค.-31 ม.ค. 59 พบว่าประเทศไทยมีการส่งเฟอร์นิเจอร์ไม้มูลค่า 2.7 หมื่นล้านบาท เฟอร์นิเจอร์และผลิตภัณฑ์จากหนังประมาณ 1.05 หมื่นล้านบาท และเฟอร์นิเจอร์โลหะ 3.9 พันล้านบาท
    สำหรับเฟอร์นิเจอร์และผลิตภัณฑ์จากหนังมีมูลค่าตลาดในประเทศประมาณ 1 หมื่นล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ZEDERE มียอดขายรวม 73 ล้านบาท เติบโตขึ้น 37% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีความโดดเด่นทั้งดีไซน์การออกแบบ คุณภาพ และฟังก์ชันการใช้งานด้วยนวัตกรรมใหม่ที่รองรับสรีระร่างกายผู้ใช้งานโดยเฉพาะผู้สูงวัย
    นายนัยธาดากล่าวอีกว่า ปัจจุบันบริษัทฯ มีโชว์รูม 2 แห่ง คือ ถ.รัชดาภิเษก และศูนย์การค้าเมกา บางนา โดยขณะนี้กำลังศึกษารายละเอียดการขยายสาขาแห่งที่ 3 ภายในเดือน ธ.ค. ศกนี้ พร้อมทั้งร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจด้านการค้าเฟอร์นิเจอร์ตามหัวเมืองใหญ่ๆ โดยเลือกจังหวัดนำร่องแห่งแรกคืออุบลราชธานี เพราะเป็นจังหวัดที่มีฐานลูกค้ากว้างครอบคลุมพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
    “ในส่วนของตลาดต่างประเทศ บริษัทฯ มีการส่งออกสินค้าไปจำหน่ายใน 23 ประเทศ พร้อมตั้งโชว์รูมในลักษณะ ZEDERE Gallery จำนวน 826 แห่งทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศจีนมีมากสุดถึง 7 แห่งในเมืองเซี่ยงไฮ้ และปักกิ่ง ล่าสุดยังได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทสาขาในประเทศสิงคโปร์เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา โดยมีแผนที่จะขยายตลาดไปยังอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย เป็นลำดับต่อไป”
    นายนัยธาดากล่าวในตอนท้ายว่า บริษัทฯ จะร่วมออกงาน “บ้านและสวนแฟร์ มิดเยียร์เซลส์ 2016” ระหว่างวันที่ 27-31 ก.ค. 59 ณ ไบเทค บางนา โดยจะนำนวัตกรรมใหม่ล่าสุดจำนวน 4 แบบไปร่วมแสดง คาดว่าจะมีผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 18% คิดเป็นจำนวน 600 คนต่อวัน เพิ่มจากเดิม 510 คนต่อวัน พร้อมตั้งเป้ายอดขายภายในระยะเวลา 5 วันรวม 20 ล้านบาท 

    (ที่มา: ผู้จัดการออนไลน์ ประจำวันที่ 24 กรกฎาคม 2559) 


















26/07/2016