มาเลเซียยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำของโลกด้านการผลิตถุงมือยางในปีนี้


    นาย Dennis Low ประธานสมาคมผู้ผลิตถุงมือยางแห่งมาเลเซีย (MARGMA) กล่าวว่า ประเทศมาเลเซียยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำอันดับ 1 ของโลกในด้านการเป็นผู้ผลิตถุงมือยาง โดยประมาณการว่าในปีนี้จะมีการผลิตถุงมือยาง 133,600 ล้านชิ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนในตลาดโลกถึงร้อยละ 63
    ทางสมาคมฯ กล่าวเพิ่มเติมว่ารายได้จากการส่งออกถุงมือยางในปีนี้คาดว่าจะทำสถิติได้มากถึง 14,300 ล้านริงกิต หรือเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 14 หรือเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่สร้างรายได้ 13,100 ล้านริงกิต
    ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ รายได้จากการส่งออกถุงมือยางของมาเลเซียอยู่ที่ 3,200 ล้านริงกิต และยังคงเพิ่มขึ้นต่อไปจนอาจสูงถึง 4,000 ล้านริงกิตต่อไตรมาสได้
    นาย Dennis กล่าวว่า ความต้องการถุงมือยางทั่วโลกยังคงถูกขับเคลื่อนจากภาคธุรกิจการดูแลด้านสุขอนามัย ซึ่งประมาณการว่าในปีนี้ปริมาณความต้องการใช้งานถุงมือยางทั่วโลกจะอยู่ที่ 21,200 ล้านชิ้น ซึ่งหมายความว่าจะมีการใช้ถุงมือยางถึง 6,728 ชิ้นต่อวินาที
    “ทางเราคาดว่าอุตสาหกรรมถุงมือยางจะยังคงฟื้นตัวได้ดีด้วยอัตราการเติบโตต่อปีอย่างน้อยจะอยู่ระหว่างร้อยละ 8-10” 
    ก่อนหน้านี้ มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความเข้าใจ (MOU) ระหว่าง MARGMA, สภาสนับสนุนการส่งออกยางแห่งมาเลเซีย และหุ้นส่วน/ผู้จัดแสดงสินค้ารายใหญ่ในการประชุมวิชาการและนิทรรศการด้านถุงมือยางนานาชาติ ครั้งที่ 8 ในระหว่างวันที่ 6-8 กันยายนปีที่แล้ว ที่ศูนย์การประชุมแห่งกรุงกัวลาลัมเปอร์
    นาย Dennis กล่าวว่า การแข่งขันระหว่างผู้ผลิตถุงมือยางภายในประเทศถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี และพวกเขาก็ตระหนักมากขึ้นในเรื่องคู่แข่งจากต่างประเทศ โดยในปีนี้ ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตถุงมือยางรายใหญ่เป็นลำดับ 2ของโลก มีส่วนแบ่งตลาดโลกร้อยละ 21 ตามด้วยประเทศจีน (ร้อยละ 5) และประเทศอินโดนีเซีย (ร้อยละ 3)

    (ที่มา: http://rubberjournalasia.com, 18/07/2016) 


















22/07/2016